HoonSmart.com>>กลุ่มบริษัทเอไอเอ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี’68 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโต 13% อยู่ที่ 1,497 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านอัตรากำไร VONB margin เพิ่มขึ้น 3.0 จุด เป็น 57.5% ด้านอัตราส่วนเงินทุนของผู้ถือหุ้นเกินกว่า 200%
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ รหัสหลักทรัพย์: 1299 ที่ตลาดหุ้นฮ่องกง กล่าวว่า เอไอเอยังคงรักษาผลงานและการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในปี 2567 ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับผลงานไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ความสามารถของเราในการคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่สร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนในระดับขนาดใหญ่เป็นผลโดยตรงมาจากรูปแบบธุรกิจที่หลากหลายและความยืดหยุ่นสูงในธุรกิจของเรา รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการของเอไอเอที่เพิ่มมากขึ้น

โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราถือเป็นเสาหลักสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตโดยส่งมอบมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) มากกว่า 75% ของกลุ่มบริษัททั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2568 ยังคงขยายการเข้าถึงอย่างต่อเนื่องด้วยการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพสูงและแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยทำให้มีจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานเพิ่มขึ้นโดยรวม 8% อีกทั้งรูปแบบโปรแกรม พรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่แตกต่าง ที่ได้มุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำได้ส่งผลให้ตัวแทนสร้างผลงานได้เพิ่มขึ้น และยังคงรักษาส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน
“เรายังมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการส่งมอบผลงานที่ดีท่ามกลางตลาดทุนที่มีความผันผวนทั่วโลก และเข้าถึงปัจจัยกระตุ้นการเติบโตพื้นฐานที่แข็งแกร่งในเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของเราจะยังคงส่งมอบคุณค่าระยะยาวที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของเราทุกฝ่ายต่อไป” นายหลี่ หยวน ชยอง กล่าว
สำหรับ เอไอเอ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่โดดเด่นมาก โดยได้รับประโยชน์จากการขายแบบครั้งเดียวผ่านช่องทางตัวแทนก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพรายบุคคลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 นอกจากนี้ ยังเห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งมากของมูลค่าธุรกิจใหม่ จากการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางธนาคาร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับธนาคารกรุงเทพ
กลุ่มเอไอเอ รายงานว่า แม้จะมีความผันผวนของตลาดทุนและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่การออมส่วนบุคคลในระดับสูง ประชากรสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น การเจาะตลาดประกันชีวิตที่ต่ำ และความคุ้มครองจากสวัสดิการที่จำกัด ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตเชิงโครงสร้างในเอเชีย และสร้างความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก
การเติบโตที่แข็งแกร่งของเอไอเอในไตรมาสแรกของปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ ความครอบคลุมและหลากหลายของตลาด ความแข็งแกร่งทางการเงิน และคุณภาพของบุคลากรของเรา นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวที่ยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้น การจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ได้เอื้อให้บริษัทฯได้รับโอกาสสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่มีกำไร ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้ในอนาคตเพิ่มขึ้น รวมถึงการสร้างผลกำไรส่วนเกิน และมูลค่าผู้ถือหุ้นที่มากขึ้นด้วย
