BKI ตั้งเป้าเบี้ยรวม 3.2 หมื่นล. ผุดประกันเพิ่มมูลค่าอิงไลฟสไตล์

HoonSmart.com>>กรุงเทพประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เน้นนโยบายปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน มุ่งฟื้นฟูุห่วงโซ่ธุรกิจ ปรับดุลยภาพรายได้-กำไร สร้างพื้นฐานการเติบโตในระยะยาว รุกพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าอิงไลฟ์สไตล์

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันภัย(BKI)เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่โต 12% จากปี 2565 เพราะต้องการสร้างดุลยภาพการเติบโตของเบี้ยรับ กับ ความสามารถในการทำกำไร ให้ไปควบคู่กัน เพื่อจะได้นำไปตอบแทนผู้ถือหุ้น และมีเหลือเก็บสะสมไว้รองรับความเปราะบางของสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเชื่อว่าจะมีโรคระบาดที่อุบัติใหม่อีกในอนาคต ซึ่ง ล่าสุดเกิดโรคไวรัสกินเนื้อคนที่ญี่ปุ่น

“ทิศทางปีนี้จะเป็นปีที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่าน หรือ transformation เพราะจะมีการปรับโครงสร้างบริษัทจาก BKI ไปเป็น BKIH หรือ บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ โดยจะเน้นการฟื้นฟูธุรกิจทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้อง ทุกส่วนได้เสีย ทั้งคู่ค่า ห่วงโซ่ทางคุณค่าต่างๆ เพื่อสร้างพื้นฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว จากปี 2566 ที่เราตั้งเป้าเป็นปีแห่งการพลิกฟื้น ซึ่งเราก็ทำสำเร็จเพราะเบี้ยโตถึง 12% สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์”ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว

ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการเติบโตของเบี้ยประกันจะมุ่งไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป เช่น สังคมสูงวัย การที่คนชอบเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน โดยได้ออกผลิตภัณฑ์รถยนต์อุ่นใจวัยเก๋า จับกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 55-75 ปี ที่ยังขับรถเอง ที่นอกจากจะให้ความคุ้มครองเบื้องต้นในการดูแลรถยนต์แล้ว ยังให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ ครอบคลุมการทำกายภาพบำบัด ครั้งละ 1,000 บาท ซึ่งประกันอุบัติเหตุทั่วไปไม่มีให้ รวมถึงการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย เช่น วีลแชร์ ปลอกหุ้มคอกรณีคอเคล็ด หรือถ้าบาดเจ็บหนักดูแลตัวเองไม่ได้ ก็คุ้มครองถึงการที่มีนักกายภาพ มีพยาบาล และแม่บ้านมาดูแล และสามารถเบิกเพิ่มในช่วงที่นำรถเข้าซ่อม นอกเหนือจากที่สามารถเรียกค่าขาดประโยชน์ที่มีอยู่แล้ว

“เท่านั้นยังไม่พอ เราเป็นเจ้าแรกในโลก ที่จะขยายความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ไปถึงสัตว์เลี้ยงที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ นอกเหนือจากคุ้มครองคนแล้ว เพราะไลฟ์สไตล์ของคนปัจจุบันมีการเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน เป็นลูก จำนวนมาก โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และการเสียชีวิต โดยที่ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม”ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว

ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ด้านประกันสุขภาพ ได้เพิ่มความคุ้มครองสุขภาพจิตเข้าไปด้วย เพราะเห็นว่าปัจจุบันคนไทยมีความเครียดเพิ่มเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยทางจิต และหลายรายไม่ทราบว่ามีอาการผิดปกติ ทำให้ดูแลรักษาไม่ทัน และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลายเป็นปัญหาระดับชาติ ทำให้เกิดการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าไปหลายคน และขยายความคุ้มครองถึงการปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ การรับยาออนไลน์ ครอบคลุม 55 อาการโรค และถ้าอยู่ในกรุงเทพ ยาจะถูกส่งถือมือผู้ป่วยภายใน 1 ชั่วโมง ตอบโจทย์ประชาชนที่รู้สึกว่าตัวเองมีความเปราะบางทางด้านจิตใจ แต่ไม่อยากเดินทางไปพบแพทย์ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ จะมีการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินในคอนโดมิเนียม และคุ้มครองจากการโจรกรรม งัดแงะ ความเสียหายของอุปกรณ์ไฟฟ้า และความรับผิดของเจ้าของห้องที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อคนอื่น

สำหรับ ปีนี้แม้ว่าเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย จะมีความเปราะบางอยู่บ้าง เห็นได้จากราคาทองคำโลกสูงมาก เพราะคนที่ไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ จะหันไปลงทุนทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่เชื่อว่าธุรกิจประกันภัยจะสามารถเติบโตได้จาก

1.จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ประกันภัยการเดินทางเติบโต
2.ประกันรถยนต์จะได้รับแรงขับเคลื่อนจากรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ที่ยอดขายสูงขึ้นเป็น 1.2 แสนคันปีนี้ ในขณะที่รถสันดาปคาดว่ายอดขายจะติดลบ 3% แต่ด้วยเบี้ยรถ EV สูงกว่าเบี้ยรถทั่วไป จะชดเชยเบี้ยรถทั่วไปที่มียอดขายลดลง และเบี้ยรถยนต์ยังมีส่วนแบ่งตลาด 60% ยังเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัย
3.ประกันอัคคีภัย ยังเติบโตได้จากส่วนของคอนโดมิเนียม และบ้านราคาสูง โดยเฉพาะราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีศักยภาพในการซื้อสูง ทำให้เบี้ยต่อยูนิตต่อกรมธรรม์สูงขึ้น
4.ประกันภัยทรัพย์สินที่เป็นลูกค้าองค์กร ยังเติบโต เพราะตลาดประกันภัยต่อมีเบี้ยที่สูงขึ้น โดยเบี้ยต่ออายุจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ในปีนี้ทำให้ตลาดนี้ยังโตได้