MFC เปิดตัว 4 กองทุน “Thai ESGX” ตอบโจทย์ทุกการลงทุนยั่งยืนในหุ้นไทย

HoonSmart.com>> “บลจ.เอ็มเอฟซี” (MFC) เสนอขายกองทุน “Thai ESGX” พร้อมกัน 4 กองทุน ตอบโจทย์การลงทุนด้านความยั่งยืนในหุ้นและกิจการไทยโดดเด่น ESG ครอบคลุม “หุ้นไทย-หุ้นปันผลไทย-หุ้นอิสลามิกไทย-กองทุนผสม” รองรับการสับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESGX ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท เปิดให้ลงทุนใหม่อีก 300,000 บาท พร้อมกับนักลงทุนทั่วไป เปิดขาย IPO ครั้งแรกสำหรับเงินลงทุนใหม่เฉพาะปี 68 ระหว่าง 2-8 พ.ค.นี้

ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บลจ.เอ็มเอฟซี ได้จัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX หรือ Thai ESG Extra) รองรับมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีใหม่ของปี 2568 ซึ่งกระทรวงการคลังสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย โดยเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมดไปยังกองทุน Thai ESGX สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท และเปิดโอกาสให้ลงทุนใหม่ได้อีก 300,000 บาท ภายในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2568 นี้ เท่านั้น

นายธนโชติ กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดตัวกองทุน Thai ESGX จำนวน 4 กองทุน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่มตามระดับความเสี่ยง ประกอบด้วย กลุ่มกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน ได้แก่ 1.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารทุนไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (MEQUITY-Thai ESGX), 2.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (HIDIV-Thai ESGX), 3.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี FTSE ชะรีอะฮ์ อินเวสเมนท์ ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (MIF-Thai ESGX) และ 4.กองทุนผสม ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีผสมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (MIX-Thai ESGX) กำหนดเสนอขาย IPO ครั้งแรก 2-8 พ.ค. นี้

สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนกลุ่มหุ้นยั่งยืน ได้แก่ MEQUITY-Thai ESGX , HIDIV-Thai ESGX และ MIF-Thai ESGX เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) หรือด้านความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) มีการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการและการตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ที่ผ่านการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดย ผู้ทวนสอบ มีบรรษัทภิบาล (Governance: G) ในระดับดีเลิศ ซึ่งต้องได้รับ CGR ซึ่งจัดทำโดย IOD ตั้งแต่ 90 คะแนนเป็นต้นไป มีการเปิดเผยเป้าหมายและแผนการเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate Value Up Plan) การยกระดับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผน

ปัจจุบันมีหุ้นในตลาด ที่โดดเด่นด้าน E หรือ ESG จำนวน 228 แห่งและมีการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้งผ่านการทวนสอบจำนวน 161 แห่ง ส่วนที่เหลืออาจลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนดให้ลงทุนได้

“จุดเด่นของกองทุน MEQUITY-Thai ESGX เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ขณะที่กองทุน HIDIV-Thai ESGX เน้นลงทุนหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนกองทุน MIF-Thai ESGX เน้นลงทุนในหุ้นซึ่งผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามและเป็นหุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยทั้ง 3 กองทุนมีระดับความเสี่ยง 6” นายธนโชติ กล่าว