บลจ.กรุงศรีจ่อขาย 3 กองทุน Thai ESGX มองหุ้นไทยโอกาสฟื้นตัว พี/อีต่ำรอบ 10 ปี

HoonSmart.com>>บลจ.กรุงศรี เตรียมเปิดตัว 3 กองทุน Thai ESGX ตอบโจทย์การลงทุนทั้งแบบ “กองทุนผสม-กองทุนหุ้นแบบ Passive เกาะดัชนีหุ้นยั่งยืน -กองทุนหุ้นบริหารเชิงรุก กระจายลงทุนหุ้นต่างประเทศ 15%” กระจายความเสี่ยง โอกาสสร้างผลตอบแทนตลาดหุ้นนอก คาดเปิดขาย IPO 2 พ.ค.นี้ ส่วนเงินสับเปลี่ยนจาก LTF เริ่ม 13 พ.ค.– 30 มิ.ย.68 มองจังหวะลงทุนหุ้นไทย พี/อีต่ำรอบ 10 ปี หนุนดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว ด้านดอกเบี้ยขาลงเอื้อลงทุนตราสารหนี้ ลดความผันผวนพอร์ต

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี เปิดเผยว่า บลจ.กรุงศรี อยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวม Thai ESGX จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 3 กองทุน ครอบคลุมนโยบายการลงทุนทั้งเป็นแบบกองทุนผสม 70/30 กองทุนหุ้นแบบ Paasive เกาะดัชนีหุ้นยั่งยืน SET50FF และกองทุนหุ้นบริหารเชิงรุกกระจายลงทุนหุ้นต่างประเทศ 15% เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่หลากหลาย

สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี 70/30 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KF70-THAIESGX) เป็นกองทุนผสม ลดความผันผวนด้วยการกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้ภาครัฐในสัดส่วน 30% ขณะที่สัดส่วนเงินลงทุนหลักจะลงทุนเชิงรุกในหุ้นไทยสัดส่วน 70% กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนเน้นการลงทุนในหุ้นปันผลที่มีศักยภาพ ภายใต้กรอบความยั่งยืน มุ่งเน้นการวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นรายตัว และ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ขณะที่สัดส่วนตราสารหนี้เน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง

กองทุน KF70-THAIESGX มี 2 ทางเลือกกองทุน ได้แก่ KF70-THAIESGX-68 สำหรับวงเงินลงทุนใหม่/ลดหย่อนปี 2568 และ KF70-THAIESGX-L สำหรับวงเงินสับเปลี่ยนจาก LTF ได้แก่ KFLTFD70, KFLTFD70-D และ KFLTFEQ70D เท่านั้น

กองทุนที่ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรี SET50 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KFS50-THAIESGX) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นแบบ Passive ลงทุนเชิงรับ เพื่อโอกาสเติบโตไปกับหุ้นใหญ่ในตลาดและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยเน้นลงทุนในหุ้นดัชนี SET50FF Index เพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีมากที่สุดและลงทุนในหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ความยั่งยืนโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80%

กองทุน KFS50-THAIESGX มี 2 ทางเลือกกองทุน ได้แก่ KFS50-THAIESGX-68 สำหรับวงเงินลงทุนใหม่/ลดหย่อนปี 2568 และ KFS50-THAIESGX-L สำหรับวงเงินสับเปลี่ยนจาก LTF ได้แก่ KFLTF50 และ KFLTF50-A เท่านั้น

ส่วนกองทุนที่ 3 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์อิควิตี้ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KFAEQ-THAIESGX) เน้นลงทุนหุ้นไทยมากกว่าหรือเท่ากับ 85% ลงทุนเชิงรุกคัดเลือกบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี มีความยืดหยุ่นในการคัดเลือกประเภทหุ้นที่เหมาะสมกับตลาดในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้จะลงทุนหุ้นต่างประเทศเท่ากับหรือไม่เกิน 15% เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นต่างประเทศ และมีการจัดสรรน้ำหนักยืดหยุ่นตามมุมมองผู้จัดการกองทุน

กองทุน KFAEQ-THAIESGX มี 2 ทางเลือกกองทุน ได้แก่ KFAEQ-THAIESGX-68 สำหรับวงเงินลงทุนใหม่/ลดหย่อนปี 2568 และ KFAEQ-THAIESGX-L สำหรับวงเงินสับเปลี่ยนจาก LTF ของ บลจ. กรุงศรี ทุกกองทุน ยกเว้น KFLTF50 และ KFLTF50-A

สำหรับมุมมองตลาดหุ้นไทย บลจ.กรุงศรี ประเมินตลาดมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ เพราะอยู่ในช่วงที่ระดับราคาถูกที่สุดในรอบหลายปี ส่วน PE Ratio ของตลาดก็แตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี และมองเป็นจังหวะที่น่าลงทุน นอกจากนี้แนวโน้มขาลงของดอกเบี้ยนโยบายเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนในตราสารหนี้ เป็นผลดีกับ Thai ESGX ที่มีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนให้กับพอร์ตการลงทุนด้วย