หุ้นเช้านี้ลบ 0.32 จุด บอนด์ยีลด์พุ่ง วิตกการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 0.32 จุด โอกาสลดดอกเบี้ยสหรัฐลดลงหลัง ISM ออกมาดีเกินคาด ส่งผลบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง Fund Flow เข้าตลาดเอเชียน้อยลง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 เม.ย. 2567 ณ เวลา 10.00 น.อยู่ที่ระดับ 1,379.16 จุด ลดลง 0.32 จุด หรือ -0.12% มูลค่าซื้อขาย 1,430.33 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ ผันผวน มีโอกาสปรับตัวลง โอกาสลดดอกเบี้ยสหรัฐฯลดลง ตลาดหุ้นรอบบ้านกลับมาซื้อขายครบทุกตลาด แม้ตัวเงินเฟ้อ(PCE) เมื่อวันศุกร์จะออกมาดี แต่คืนที่ผ่านมา ตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อของภาคอุตสาหกรรม(ISM) ออกมาดีเกินคาด จาก 47.8 เป็น 50.3 จุด กลายเป็นลบกับตลาด เพราะทำให้โอกาสในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดลง สินทรัพย์ที่จะถูกกระทบ จะเป็นตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield 10 ปี กระชากขึ้นไปที่ 4.30%) ทองคำ และ Crypto Currency ส่วนตลาดหุ้นเอเซีย Fund Flow จะเข้าตลาดน้อยลง

หุ้นกลุ่ม Tech (สหรัฐฯ) เริ่มถูก downgrade นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดนี้ อาจต้องเปลี่ยนไปหากลุ่มอิงเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากขึ้น

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังผันผวนจากเงินเยนอ่อน (คนกลัว BOJ แทรกแซง) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี มีผลลบทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ด้วย เพราะนักลงทุนไม่ค่อยชอบความไม่แน่นอน

อิสราเอล ถูกกดดันจากประชาชนมากขึ้น และผู้นำอิสราเอล เห็นด้วยกับข้อเสนอปล่อยตัวประกัน หากประสบความสำเร็จ จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก

ธนาคารโลกปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัว 2.8% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 3.2% เมื่อเดือน ม.ค. โดยยังไม่รวมผลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต… การที่ GDP ถูกปรับลด จะลดปริมาณ Fund Flow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้น

นอกจากนี้ คาดว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ จะรอดูการแถลงในรายละเอียดของ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท 10 เม.ย. (วันนั้นจะมีการประชุม กนง.ด้วย) การซื้อขายของตลาดหุ้นไทยคาดจะเป็น sideway จนกว่าจะถึงวันนั้น (10 เม.ย.) โดยการแจกเงินครั้งนี้ มีผลต่อการก่อหนี้ของรัฐบาล ซึ่งมีผลต่อค่าเงินบาทและตลาดหุ้นโดยตรง

ประชุม ครม.วันนี้ คาดจะมีการขอกู้เพิ่มสำหรับงบประมาณปี 2568 (เริ่มใช้ 1 ต.ค.68) จาก 7.13 เป็น 8.65 แสนล้านบาท (+1.52 แสนล้านบาท) การขอกู้จะเป็นลบต่อตลาด(ปีก่อนก้มีมาแล้วครั้งนึง) และอาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก

Event สำคัญๆ วันนี้ ประชุม ครม.

ด้านกลยุทธ์ มองตลาดยังไม่เลือกทางเดินว่าจะขึ้นหรือลง แต่วันนี้มีโอกาสลงมากกว่าขึ้น (กรอบ ด้านล่าง 1,368 / ด้านบน 1,380) โดยตลาดอาจไปขยับตัวจริงจัง (ขึ้นแรง-ลงแรง) อีกครั้งหลัง 10 เม.ย. ระหว่างนี้ ปรับกลยุทธ์เป็นเล่นสั้นๆ หรือถือเงินสดรอไว้ก่อน

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 122.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.21% มูลค่าซื้อขาย 200.95 ล้านบาท
TISCO อยู่ที่ 99.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.25% มูลค่าซื้อขาย 87.73 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 81.70 ล้านบาท
KTB อยู่ที่ 16.80 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.59% มูลค่าซื้อขาย 81.54 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 65.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 57.76 ล้านบาท