HoonSmart.com>>”บล.คิงส์ฟอร์ด” ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,120 – 1,130 จุด แนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด คาดดัชนีกลับมาสู่กรอบ Sideway อีกครั้ง ระหว่างรอความขัดเจนการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย หลังสหรัฐเลื่อนเจรจาจากกำหนดเดิม 23 เม.ย. รอกำหนดใหม่ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัย CPF, GFPT, BTG, BDMS,ADVANC,TRUE เลี่ยงความผันผวนของตลาด กลุ่มไฟแนนซ์ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง หุ้นเด่นแนะ OR, BDMS
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,120 – 1,130 จุด แนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด โดยคาดดัชนีกลับมาสู่กรอบ Sideway อีกครั้ง ระหว่างรอความขัดเจนการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย หลังสหรัฐเลื่อนการเจรจากับไทยจากหมายกำหนดเดิมวันที่ 23 เม.ย. โดยอยู่ระหว่างรอหมายกำหนดการใหม่ และรอรายงานกำไร บจ.ในกลุ่ม Real Sector แนะนำทยอยซื้อปลอดภัย เช่น CPF, GFPT, BTG, BDMS,ADVANC,TRUE เพื่อเลี่ยงความผันผวนของตลาด กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD,MTC,SCAP ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง
ขณะที่รายงานกำไร Q1/68 ของธนาคารพาณิชย์ยังได้แรงหนุนจากกำไรจากเงินลง กอปรกับคุมค่าใช้จ่ายได้ดี แต่แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังถูกกดดันจาก NIM ที่ลดลง จากคาดการณ์ กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้อีก 2 ครั้ง กอปรธนาคารยังจำเป็นต้องตั้งสำรอง ECL ระดับสูง เพื่อรับรองกับความเสี่ยงหนี้เสีย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -2.48%, S&P500 -2.36%, Nasdaq -2.55% จากแรงขายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -2.86%, เทคโนโลยี -2.72% หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมากดดันให้ ประธานเฟดปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขู่ว่าจะปลดออกจากตำแหน่ง อาจส่งผลกระทบความเป็นอิสระของเฟด นักลงทุนยังกัวลต่อภาวะสงครามการค้า หลังจีนเผยจะตอบโต้ประเทศต่าง ๆ ที่ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ที่ขัดต่อผลประโยชน์ของจีน
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทำการในเทศกาล Easter สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน, อังกฤษ เบื้องต้น เม.ย. และความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – EU หลังสัปดาห์ก่อนนายก ฯ อิตาลีได้หารือเบื้องต้นกับ ประธานาธิบดีทรัมป์
หุ้นเด่นแนะนำ OR (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.80 บาท) บริษัทมีแผนกลยุทธ์เพื่อแย่งชิง market share กลับคืนมา ด้วยการเปิดสถานีบริการใหม่ 100 แห่ง เน้นพื้นที่มีศักยภาพ ปรับปรุงสถานีบริการเก่าและจัดแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยธุรกิจ Mobility คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นขณะที่อัตรากำไรต่อหน่วยฟื้นตัวจากแรงกดดันของรัฐลดลงหลังสถานะกองทุนน้ำมันดีขึ้น ส่วนธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นตามยอดขายกาแฟและไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิด Texas Chicken 442 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 68 ตั้งงบลงทุนที่ 1.89 หมื่นล้านบาท รองรับแผนกลยุทธ์ข้างต้นซึ่งรวม M&A และ innovation & new business อ้างอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 9.7 พันล้านบาท +27%YoY และ 1.09 หมื่นล้านบาท +12%YoY
หุ้น BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 +YoY, +QoQ หนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ+YoY /คุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี/ รายได้อื่นสูงขึ้นจาก Mövenpick BDMS Wellness Resort / มี Tax Credit ส่วน 1Q68 แม้มีปัจจัยกดดันจาก 1.ประกันรูปแบบ Co-pay ตั้งแต่ 20 มี.ค.68 และ 2.รอมฎอนในช่วง 28ก.พ.-29 มี.ค.68
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการดำเนินงานจะยังสามารถอยู่ในเกณฑ์ดีได้จากร.พ.ในต่างจังหวัดที่ทำได้ดีในช่วงปี 67 ที่ผ่านมา โดย ผู้บริหารวางเป้าการเติบโตของรายได้ในช่วง 1H68 ราว +7 ถึง 8%YoY ทั้งนี้ ปัจจุบันฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรสุทธิปี68 และ ปี69 ที่16,945ลบ.(+6%YoY)และ18,341ลบ.(+8%YoY) ตามลำดับ