DELTA เปิดศูนย์ R&D-โรงงานใหม่ เพิ่มกำลังผลิตรับ EV โตเร็ว

HoonSmart.com>>”เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ” (DELTA) ทุ่มลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท เปิดโรงงานแห่งที่ 8  ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ นิคมฯบางปู  ช่วยพัฒนาเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ไปยังลูกค้าระดับโลก  เพิ่มกำลังการผลิตรองรับธุรกิจยานยนต์ EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)  หรือ DELTA บริษัทในเครือของเดลต้า กรุ๊ป จากไต้หวัน เปิดตัวโรงงานเดลต้าแห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขยายการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของเดลต้าไปยังลูกค้าระดับโลก โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมพิธีเปิดเพื่อเป็นสักขีพยานความสำเร็จครั้งใหม่ของการเดินทางตลอด 35 ปีของเดลต้าในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567

นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า รัฐบาลยินดีกับการเปิดโรงงานใหม่นี้ และยินดีสนับสนุนเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ส่งออกและผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำ โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของไทย ได้ประกาศลงทุนและจะช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub)

นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาตลอด 35 ปี สำหรับเดลต้า ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2553 ได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โรงงาน แห่งที่ 8  มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการปริมาณยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ จะช่วยพัฒนาเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เชื่อมั่นว่าการลงทุนที่สำคัญในครั้งนี้จะนำประโยชน์มากมายมาสู่อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย รวมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของเดลต้ามีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์การจัดการพลังงาน รวมถึงเครื่องชาร์จในตัว ตัวแปลง DC/DC และผลิตภัณฑ์ระบบส่งกำลัง รวมทั้ง Traction inverter และ Traction motor ตลอดจนโซลูชันการจัดการความร้อนและอุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง Passive component โดยเดลต้ามีลูกค้าระดับโลก ได้แก่ ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น

บริษัทเดลต้า ประเทศไทยได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้าทั่วโลกที่โรงงานเดลต้า 1 ด้วยพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ตั้งแต่ปี  2553 ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่และศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 2 แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,400 ตารางเมตร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท Electrics Vehicle Solutions (EVSBG) เช่น เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพของเดลต้าครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับและจัดเก็บวัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนการผลิตต่างๆ เช่น ขั้นตอนการวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจร (SMT) ขั้นตอนการประกอบแผงวงจร (PWBA) การประกอบชิ้นส่วนต่างๆและการ burn-in พร้อมทั้งการตรวจสอบสินค้าขั้นสุดท้ายก่อนการส่งออก การลงทุนมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาทสำหรับโรงงานแห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาครั้งนี้แสดงโซลูชันอาคารอัจฉริยะและการผลิตอัจฉริยะที่ประหยัดพลังงานของเดลต้ายกระดับความสามารถในการผลิตและมาตรฐานการผลิต

บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี พ .ศ. 2531 เป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อน  ด้วยพันธกิจ “มุ่งมั่นสร้างสรรค์ นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม บริษัทในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการประหยัดพลังงานทางด้านเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ และด้วยนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาที่ทันสมัย ธุรกิจหลัก  แบ่งได้ดังนี้ เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ออโตเมชัน และระบบโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทฯ มีสำนักงานขายมากมายในภูมิภาคหลักทั่วโลก โรงงานผลิตในอินเดีย สโลวาเกีย และประเทศไทย ศูนย์วิจัยพัฒนาและออกแบบในไทย อินเดีย เยอรมันและอื่น ๆ อีกมากมายในหลายประเทศ

เดลต้า เป็นบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและในภูมิภาค  เป็นบริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ซึ่งเป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในหมวด “ชิ้นส่วนอุปกรณ์ เครื่องมือ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์” ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2566 และได้รับรางวัลผู้นำด้านการมีส่วนร่วมของซัพพลายเออร์ ประจำปี 2565 จาก CDP ในด้านความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน ณ เวลานี้ เดลต้า ประเทศไทย กำลังเดินหน้าสู่ก้าวใหม่ของการเติบโต ด้วยการขยายขอบเขตการวิจัยและพัฒนา การผลิต และธุรกิจในตลาดท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนการพัฒนาในอุตสาหกรรม S-curve ของประเทศไทย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้