SCC ลบ 2.26% หั่นกำไรปีนี้ลง 29% จากค่าใช้จ่าย LSP สูงกว่าคาด

HoonSmart.com>>หุ้น SCC ลบ 2.26% โดนปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 29% หลัก ๆ จากโครงการ Long-Son Petrochemical (LSP) ที่เวียดนาม ค่าใช้จ่ายมากกว่าคาด ทั้งดอกเบี้ย-ค่าเสื่อม ส่วนธุรกิจเคมีคอลยังขาดทุน แต่ธุรกิจซีเมนต์-แพคเกจจิ้งยังดีอยู่ ส่วนแผนนำ SCGC เข้าตลาดหลักทรัพย์ถูกเลื่อนไปอย่างน้อย 2 ปี

หุ้น SCC ปิดเช้าลบ 2.26% มาที่ 259 บาท ลดลง 6 บาท มูลค่าซื้อขาย 860.32 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 265 บาท ขึ้นสูงสุด 265 บาท และต่ำสุด 258 บาท

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ลง 29% มาเหลือ 16,500 ล้านบาท หลัก ๆ มาจากโครงการ LSP ที่เวียดนาม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่คาด ทั้งดอกเบี้ย และค่าเสื่อม

ขณะที่มุมมองธุรกิจยังเหมือนเดิม โดยธุรกิจเคมีคอลปีนี้ขาดทุน ส่วนธุรกิจซีเมนต์ และแพคเกจจิ้งยังดีอยู่ ซึ่งธุรกิจซีเมนต์คาดหวังจากการจ่ายงบประมาณประจำปี 67 อีกทั้่งต้นทุนก๊าซ และถ่านหินลดลงด้วย พร้อมแนะนำ”ถือ”หุ้น SCC ราคาเป้าหมาย 290 บาท

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุ รายได้รวมของ SCC ในปี 67 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7% YoY (เทียบกับเป้าหมายของ SCC คาดเติบโต 20% YoY) โดยปี 67 ธุรกิจปิโตรเคมีมความคืบหน้าที่สำคัญต่อการเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในโครงการ Long-Son Petrochemical (LSP) โรงงานปิโตรเคมีครบวงจรในประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ไตรมาส 1/67 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังมีแรงกดดันจากอุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้น และ Demand ที่เติบโตช้ากว่าที่คาด จากผลกระทบของภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ

ส่วนธุรกิจเคมีคอลในปีนี้ยังคงขาดทุน 2.1 พันล้านบาท แม้คาดกำไรธุรกิจเคมีคอลจะเริ่มฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 67 คาดว่า Demand จะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 67 จากผลของการดําเนินนโยบายการเงินทัว่ โลกที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ Demand ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ High-Value Added Products & Service (HVA) ของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากความร่วมมือกับ Denka ในการผลิตและจําหน่าย Acetylene Black ปัจจุบันมี ความต้องการสูงเนื่องจากเป็นส่วนประกอบสําคัญสําหรับนําไฟฟ้าในการผลิตขั้วแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบชาร์จไฟได้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

ธุรกิจเคมีคอลที่ยังอ่อนแอ ทำให้ SCC มองว่าแผนการนำ SCGC เข้าตลาดหลักทรัพย์ถูกเลื่อนไปอย่างน้อย 2 ปี อย่างไรก็ตาม SCC มีแผนที่จะ Transform ธุรกิจไปสู่ SCGC Green Polymer ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความนำ SCGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต