หุ้นไทยใกล้ฟื้น? “เซียนมี่” เผยกลยุทธ์คัดหุ้น-แนะวิธีสร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว

HoonSmart.com>>”เซียนมี่” – ทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย-หนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ชื่อดัง ชี้ตลาดหุ้นไทยใกล้แตะจุดต่ำสุด มีโอกาสฟื้นตัวแรง สิ่งสำคัญต้องมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความผันผวน เผย 3 เคล็ดลับเลือกหุ้นรับมือโลกอนาคต สร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นไทย นักลงทุนหลายคนอาจตั้งคำถามว่า ถึงเวลาต้อง “ตัดขาดทุน” (Cut Loss) แล้วหรือยัง? ‘เซียนมี่’ – ทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย และหนึ่งในนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ชื่อดังชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยใกล้แตะจุดต่ำสุดและมีโอกาสฟื้นตัวแรง แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความผันผวนนี้ไปให้ได้

ทิวา ชินธาดาพงศ์

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 Definit by Finnomena ได้จัดงานสัมมนาพิเศษ “ยังควรสู้อยู่ในหุ้นไทย หรือไปลงหุ้นนอกหลังจากนี้” โดยภายในงาน เซียนมี่ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นไทย พร้อมแนะนำกลยุทธ์เลือกหุ้น และสร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว ด้วยการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม

หุ้นไทยใกล้กลับตัว แต่อนาคตยังไม่แน่นอน

เซียนมี่มองว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อาจเกิดจากปัจจัยที่หลายคนมองข้าม เช่น ประเด็นทางการเมือง ซึ่งนักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญ หากสถานการณ์นี้คลี่คลายอาจเป็นแรงส่งให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้น นักลงทุนควรมีสัดส่วนการลงทุนที่สมดุลระหว่างหุ้นไทยและต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วเซียนมี่จัดสรรพอร์ตการลงทุนระหว่างหุ้นไทยและหุ้นจีนในสัดส่วน 50/50 ซึ่งช่วยให้สามารถรับมือกับความผันผวนของแต่ละตลาด และยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศ

กลยุทธ์ที่ดีสำคัญกว่าการตัดสินใจด้วยอารมณ์

เมื่อถูกถามถึงการ “ตัดขาดทุน” เซียนมี่ให้คำแนะนำว่า ก่อนจะขายหุ้นไทย นักลงทุนควรหา “ตัวเลือกที่ดีกว่า” ให้เจอก่อน เพราะการขายหุ้นด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียวไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี หากไม่มีแผนรองรับว่าเงินที่ได้จากการตัดขาดทุนจะนำไปลงทุนอะไรต่อ เงินดังกล่าวอาจไม่ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ถ้าไม่รู้ว่าขายไปแล้วจะเอาเงินไปทำอะไรต่อ ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งขาย” นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย กล่าว

เซียนมี่ยังแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า การนำเงินปันผลจากหุ้นไทยไปลงทุนในต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยเปิดโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมทั้งกระจายความเสี่ยงไปในตัว

3 เคล็ดลับเลือกหุ้นรับมือโลกอนาคต

เซียนมี่ระบุว่า โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI หรือแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน เขามองว่าประเทศที่เคยถูกมองว่ามีอนาคต อาจไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ในขณะที่บางประเทศที่เคยถูกมองข้าม อาจกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในอนาคต

หนึ่งในวิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงคือ การเลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถ “เติบโตได้แม้ว่าจำนวนประชากรจะลดลง” เพื่อรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกในระยะยาว รวมถึงมองหาบริษัทที่มีศักยภาพระดับโลก (Global Company) และมีผู้บริหารที่ “ลงเรือลำเดียว” กับนักลงทุน

สร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว
เซียนมี่เน้นย้ำว่า นักลงทุนควรสร้างพอร์ตเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว โดยกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม และเลือกหุ้นที่มีความสามารถในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
พร้อมทั้งระบุอีกว่า ตลาดหุ้นไทยอาจมีเสน่ห์ลดน้อยลงสำหรับบางคน แต่เซียนมี่เชื่อว่า หากนักลงทุนมีกลยุทธ์ที่ดี ยังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ

วศิน ปริธัญ

กลยุทธ์นำทางสู่โอกาสในหุ้นไทย
นายวศิน ปริธัญ, CFA, Managing Director ของ Definit Investment Advisory Securities (“Definit”) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฟินโนมีนา (“Finnomena”) ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนในปัจจุบัน โดยเน้นว่าหุ้นไทยในเชิงดัชนีอาจจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่หากมองในระดับรายตัวจะพบว่ามีหุ้นที่สามารถทำกำไรได้ทุกเดือนมากถึง 200 – 300 ตัว

“ภาวะตลาดแบบนี้ ถ้าเลือกหุ้นถูกก็สามารถทำกำไรได้” นายวศินกล่าว พร้อมเห็นด้วยกับเซียนมี่ว่า ไม่ควรขายหุ้นออกไปโดยไม่มีแผน เพราะอาจพลาดโอกาสที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน “Definit” ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุน “Definit SET Select” และบริการ “Stock Health Check” ตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยด้วย DSS Rating ซึ่งใช้กระบวนการคัดเลือกหุ้นโดยอ้างอิงจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. Earnings – การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์
2. Valuation – การประเมินมูลค่าความถูกแพงของหุ้นเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
3. Technical – แนวโน้มของราคาหุ้นในระยะสั้น

Definit SET Select ออกแบบให้สามารถปรับพอร์ตได้ทุกเดือน โดยหุ้นในพอร์ตจะมีระยะเวลาถือเฉลี่ย 1-3 เดือน และจะมีการปรับพอร์ตเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาด ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

● หุ้นที่อยู่ในพอร์ตไม่เกิน 20 ตัว
● แต่ละหุ้นจะไม่เกิน 10% ของพอร์ต
● หากไม่มีหุ้นที่ตรงตามเกณฑ์ จะถือเงินสดแทน

ด้วยแนวทางการลงทุนที่มีวินัยและยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด Definit SET Select จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ บริการ Definit SET Select เป็นบริการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด (เลขใบอนุญาต 0105565129248) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฟินโนมีนา (“Finnomena”) ดูแลด้านโมเดลและคำแนะนำพอร์ต กับบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลด้านบัญชีหุ้นและการบริหารพอร์ต

สามารถลงทะเบียนเพื่อรับบริการและรับข้อมูล Definit SET Select เพิ่มเติมได้ที่ https://www.definitinvestment.com/