“บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีทรงตัว รอผลประชุมบีโอเจ-เฟด แนะ MTC-CRC

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นวันนี้คาดดัชนีทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,375 – 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด ระหว่างรอผลประชุม BOJ, FED ด้านบอน์ดยีลด์ปรับขึ้นแตะ 4.331% แนะทยอยซื้อค้าปลีก CRC,BJC กลุ่มปลอดภัย BH,BCH,ADVANC,ITEL,SIS เก็งกำไร PTT,PTTEP ตามราคาน้ำมันดิบ พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้แนะ MTC-CRC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด ระหว่างรอผลการประชุม BOJ, FED แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CRC,BJC กลุ่มปลอดภัย BH,BCH,ADVANC,ITEL,SIS เก็งกำไร PTT,PTTEP ตามราคาน้ำมันดิบ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.20%, S&P500 +0.63%, Nasdaq +0.82% ได้แรงหนุนจาก Alpabet +4.4% หลังกำลังเจรจากับ Apple เพื่อนำระบบ Gemini AI มาในใช้ใน Iphone ขณะที่ Tesla +6.3% รับข่าวการปรับขึ้นราคาขายรถโมเดล Y ในยุโรปบางประเทศ

ส่วน NAHB เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน มี.ค. ปรับขึ้น 3 จุด อยู่ที่ 51 & คาด 48 เป็นผลจากดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับลลดลง นักลงทุนรอผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. และมุมมองของ Fed Dot Plot ว่าเปลี่ยนแปลงจากเดิมคาดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้หรือไม่

ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทเลคอม หลัง German Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้น +0.02% อยู่ที่ 2.458% แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน ส่วนรายงาน CPI ยูโรโซน ก.พ. อยู่ 2.6% YoY , 0.6% MoM ตามคาด โดยตลาดคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบียในปีนี้ราว 0.83% และอาจจะเริ่มลดใน มิ.ย. นี้

ด้านราคาน้มันดิบ WTI เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ อยู่ที่ 82.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ อยู่ที่ 86.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอิรักผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับ 2 ของโอเปกจะลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน หลังช่วง ม.ค. – ก.พ. ได้ผลิตเกินโควต้า ขณะที่ซาอุ ฯ ได้ปรับลดการส่งออกน้ำมันใน ม.ค. อยู่ที่ 6.297 ล้านบาร์เรล/วัน จาก ธ.ค. ที่ 6.308 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นการลดลง 2 เดือนติดต่อกัน

ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าตัวอยู่ที่ 36.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.331 %

ดัชนี BDI วานนี้ +45 จุด อยู่ที่ 2,419

BitCoin เช้านี้ -1.67% อยู่ที่ 66,487 ดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MTC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 47.50 บาท) บริษัทรายงานกำไร 4Q66 ดีขึ้น +5%QoQ, +19%YoY เป็นไปตามสินเชื่อที่ขยายตัว +3%QoQ, +19%YoY ด้าน Cost of fund สูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย แต่ยังสามารถบริหารจัดการ Credit cost ให้ลดลงอยู่ที่ 3.7% เทียบกับ 3Q66 ที่ 3.8% 4Q65 ที่ 4.4% จาก NPL ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม cost to income เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายพนักงาน

ส่วนแนวโน้มปี 67 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ +20% เป็น 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มจำนวนสาขาอีก 600 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 7,500 สาขา เน้นเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อมีหลักประกันและเพิ่มคุณภาพของพอร์ตเพื่อคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.2% ทั้งนี้หากอิง Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 5.76 พันล้านบาท +17% YoY และ 7.09 พันล้านบาท +23%YoY

หุ้น CRC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 46.00 บาท) ระยะสั้นมี Sentiment บวกในกลุ่ม Hardline(ไทวัสดุ) จากการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณปี67 ในสัปดาห์นี้ ส่วนกำไรสุทธิช่วง 4Q66 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,138 ลบ. (-5.22%YoY, +175% QoQ ) ภาพรวม YoY อ่อนตัวจากExtra Items ที่เป็นบวกใน 4Q65 และยอดขายกลุ่มธุรกิจ Food ถูกกดดันจากธุรกิจในเวียดนามอยู่บ้าง แต่กำไรปกติยัง +14%YoY +120%QoQ

ส่วนการดำเนินงานช่วง 1Q67 คาดยังดี YoY รับเทศกาลตรุษจีน และม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ(easy e-receipt) โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักของรายได้ปี67 คาดจะมาจากกลุ่ม Food ซึ่ง CRC ตั้งเป้าเปิดสาขา GO Wholesale เพิ่มอีก 7 สาขา(จาก 11 สาขาปี66) โดย ปัจจุบัน เราวางกำไรสุทธิปี67 ที่ 9,175 ล้านบาท (+14%YoY)