HoonSmart.com>>แผ่นดินไหวทั่วเอเชีย “ทรัมป์”รีดภาษีนำเข้าหนัก ไทยโดน 36% มากกว่าจีน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองเศรษฐกิจไทยอาจหดตัว -1.1% ในปีนี้ ส่งออกจะหดราว -7% หากไม่มีการเจรจาต่อรอง และลดดอกเบี้ยจากแบงก์ชาติ เล็งกระทบ 7 อุตสาหกรรม หุ้น 21 ตัว AH, SAT, STANLY, NYT, KCE, DELTA, HANA, STA, STGT, NER, TU, CFRESH, COCOCO, PLUS, MALEE, AAI, ITC, PDJ, AMATA, WHA, FTREIT
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ภาษีศุลกากรขั้นต่ำ 10% กับทุกประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ โดยประเทศที่มีการขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากที่สุดประมาณ 60 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น
ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อยกเลิกการยกเว้นภาษี “de minimis” สำหรับสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำจากจีน (800 เหรียญสหรัฐฯ หรือน้อยกว่า) โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พ.ค. 2568
ภาพรวมนี้ประเมินได้ว่า การเก็บในอัตราที่สูงเช่นนี้บ่งชี้ว่าทรัมป์ตั้งใจจะทำให้การค้า โลก เปลี่ยนจากการค้าเสรี เป็นการค้าที่ทุกประเทศมีการเก็บอากรขาเข้า ซึ่งจะลดทอนการค้าโลกในระดับหนึ่ง และสงครามการค้าทั่วโลกรุนแรงขึ้นซึ่งจะกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงต้นทุนสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองตามการวิเคราะห์แบบ Sensitivity Analysis อัตราภาษีที่ 36% อาจทำให้เศรษฐกิจไทยหดตัวลง -3.6% เหลืออยู่ที่ -1.1% ลดลงจากการคาดการณ์พื้นฐานที่ 2.5% ส่วนการส่งออกจะหดตัวประมาณ -7% หากไม่มีการเจรจาต่อรองและการลดดอกเบี้ยจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ส่วนผลต่อตลาดหุ้นไทย จะกระทบทางตรงต่อสินค้าสำคัญของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ดังนี้
1. ยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ – มองเป็นลบต่อกลุ่มยานยนต์ โดยประเทศไทยส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐคิดเป็น 9% ของการส่งออกรถยนต์ และคิดเป็น 6% ของการผลิตรถยนต์ (AH SAT STANLY NYT) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, DELTA, HANA)
2. เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ – มองเป็นลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE)
3. ยางและผลิตภัณฑ์ยาง – มองเป็นลบต่อกลุ่มยางและถุงมือยาง (STA STGT มีส่งออกไปสหรัฐโดยตรง ขณะที่ NER จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากลูกค้าจีนที่ส่งออกยางไปยังสหรัฐ)
4. สินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว อาหารสุนัขและแมว ทูน่าและผลิตภัณฑ์ทูน่า กุ้งและผลิตภัณฑ์กุ้ง มะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าว สัปปะรดกระป๋อง – มองเป็นลบต่อ TU CFRESH COCOCO PLUS MALEE AAI ITC
5. อัญมณีและเครื่องประดับ – มองเป็นลบต่อผู้ส่งออกเครื่องประดับอย่าง PDJ
ขณะที่มองส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการลงทุนและเศรษฐกิจไทย อาจส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนและการชะลอการขอสินเชื่อเพื่อส่งออก และเกิด Sentiment ลบต่อบรรยากาศการลงทุน
1. นิคมอุตสาหกรรม- มองนโยบายครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่ดิน ในกรณีร้ายแรงที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อ Backlog บางส่วน หุ้น ที่เกี่ยวข้อง AMATA WHA FTREIT (ความต้องการในการเช่าโรงงานและคลังสินค้าลดลง)
2. ธนาคาร – ส่งผลกระทบทางอ้อมในแง่อัตราการเติบโตของสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์เล็กน้อย
ขณะเดียวกัน มองว่า ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในระยะกลาง-ยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลก ปัจจัยที่สนับสนุนแนวโน้มราคาทองคำในระยะข้างหน้า