HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 46 จุด สวนทางดัชนี S&P 500, Nasdaq ปิดลบจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนรอรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนก.พ. เพื่อประเมินกรอบเวลาเฟดลดดอกเบี้ย ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ลดลง 8 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11มีนาคม 2567 ที่ 38,769.66 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.12% ขณะที่นักลงทุนการเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญซึ่งจะบ่งชี้กรอบเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,117.94 จุด ลดลง 5.75 จุด, -0.11%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,019.27 จุด ลดลง 65.84 จุด, -0.41%
ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ปิดลบติดต่อกันวันที่สอง จากการปรับตัวลงของกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดรอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันอังคารและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสุดท้ายก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่19-20 มีนาคม หลังจากที่ข้อมูลการจ้างงานเดือนกุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง แม้อัตราการว่างงานจะสูงกว่าคาด ซึ่งเป็นภาพที่ผสมปนเปกัน
ดัชนี CPI เป็นประเด็นสำคัญหลังจากที่ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่า เฟดต้องมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลงก่อนที่จะผ่อนคลายต้นทุนการกู้ยืม
นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดการณ์ว่า CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนCPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและ 3.7% เมื่อเทียบรายปี
ในกลุ่มเทคโนโลยี หุ้น Super Micro Computer ลดลง 5% หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิป ลดลง 2% ทั้งสองบริษัทถูกขายออก หลังนักลงทุนมีคำถามว่าหุ้นที่เชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์จะยังปรับขึ้นได้อีกหรือไม่
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 4.4% หุ้น AMD ลดลง 4.3% และหุ้น Broadcom ลดลง 1.2%
หุ้นOracle เพิ่มขึ้น 1.6% ก่อนรายงานผลประกอบการไตรมาสสามหลังปิดตลาด
ในกลุ่มอื่นๆ หุ้น Eli Lilly บริษัทยาลดลงกว่า 3%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการขายหุ้นเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนหันจับตากการรายงานเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
กลุ่มเทคโนโลยีลดลงมากสุดในดัชนี STOXX 600 โดย ลดลง 2% จากการร่วงลง 8.9% ของหุ้น BE Semiconductor หุ้น ASML บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ลดลง 4.2%
ตลาดจับตาการเผยแพร่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ในวันอังคารเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากรายงานเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานสหรัฐเร่งตัวขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว
นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนมกราคมในสัปดาห์นี้
ตลาดคาดหวังว่าทั้งธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินตั้งแต่เดือนมิถุนายน
นอกจากนี้แรงกดดันต่อตลาดหุ้นยังมาจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนี ที่ขยับขึ้น หลังร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมก็ลดลงเช่นกัน โดยกลุ่มเหมืองแร่ลดลง 0.4%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 501.49 จุด ลดลง 1.77 จุด, -0.35%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,669.23 จุด เพิ่มขึ้น 9.49 จุด, +0.12%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,019.73 จุด ลดลง 8.28 จุด, -0.10%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิด 17,746.27 จุด ลดลง 68.24 จุด, -0.38%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 77.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 82.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล