HoonSmart.com >> SAAM บิ๊กเชนจ์ มุ่งสู่ Microstrategy of Thailand รายแรกของไทย ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 10 ล้านดอลลาร์ ไม่มีดอกเบี้ย ราคาแปลงสภาพ 10 บาท/หุ้น ซื้อเหรียญบิทคอยน์ มีทั้งเงิน-เหรียญสร้างธุรกิจเสริมสภาพคล่องการซื้อขาย กินส่วนต่าง – ค่าธรรมเนียม “พดด้วง คงคามี” มั่นใจรายได้ปีนี้ 300 ล้านบ. เทรนธุรกิจขาขึ้น ดันไทยก้าวสู่ผู้นำระดับโลก
นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทฯ ปี 2568 มุ่งสู่ Microstrategy of Thailand รายแรกของประเทศไทย ทำธุรกิจเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายเหรียญดิจิทัล ผ่านบริษัท นากาโมโตะ แล็บส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAMM โดย SAAM อยู่ระหว่างขออนุญาตออกหุ้นกู้แปลงสภาพ วงเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 340 ล้านบาท ไม่มีดอกเบี้ย ราคาแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ SAAM หุ้นละ 10 บาท หุ้นกู้มีอายุ 1 ปี นับจากวันออก เสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง จำนวน 2 ราย ในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับเงินจากการขายหุ้นกู้แปลง จะนำไปซื้อเหรียญบิทคอยน์เท่านั้น เป้าหมายเพื่อนำไปสร้างสภาพคล่อง ไม่ได้นำไปเก็งกำไร และไม่มีการบันทึกราคาเหรียญ ไม่ว่าเหรียญจะขึ้นหรือลง จะไม่มีการบันทึกกำไร-ขาดทุนจากราคาเหรียญ
บริษัท นากาโมโตะ จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย ( Liquidity Provider) หรือ LP มีรายได้ 1. จากส่วนต่างราคาซื้อขายเหรียญดิจิทัล , 2.รายได้จากส่วนต่างของราคาเหรียญแต่ละกระดานเทรด และ 3. ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
” ตั้งแต่ไตรมาส 2/68 เป็นต้นไป จะเห็นรายได้จากการเป็น LP เป้าหมายรายได้ปีละ 300-400 ล้านบาท และเป้าการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 1,000 ล้านบาท เพราะเทรนบิทคอยน์มีแนวโน้มที่ดี กรณีราคาวูบ ไม่ส่งผลกระทบ เพราะนักลงทุน ๆ เหรียญอยู่แล้ว ยิ่งตลาดผันผวน การทำ LP จะมีรายได้ที่ดี ส่วนนักลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ SAAM ถ้าราคาเหรียญขึ้น สามารถแปลงเป็นหุ้น SAAM ได้ แต่ถ้าเหรียญลง คืนเป็นเหรียญแทน ”
นายพดด้วง กล่าวอีกว่า อนาคตสัดส่วนรายได้ของ SAAM รายได้จากธุรกิจเกม-ธุรกิจ LP จะเป็นรายได้หลัก แทนที่รายได้ธุรกิจพลังงาน
“SAAM ไม่ได้แค่ลงทุนในคริปโท แต่เรากำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัล ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก โดย Nakamoto Labs จะเป็นศูนย์กลาง Liquidity Provision & Web3 Infrastructure ถือเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจของบริษัทฯ เข้าสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์โลก และก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยบทบาทของ SAAM ในการลงทุน และขับเคลื่อนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านการใช้ Digital Asset & Liquidity Provision เป็นกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจ” นายพดด้วง กล่าว
นายปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นากาโมโตะ แล็บส์ (Nakamoto Labs) กล่าวว่า การทำธุรกิจ LP สามารถประเมินกำไรได้ทันทีจากออเดอร์ซื้อขายที่ส่ง ซึ่งออเดอร์จะแมทกับคนอื่น และแมทกับตัวเองไม่ได้ ดังนั้นการทำ LP ของนากาโมโตะ จะเป็นทั้งเมคเกอร์ และเทคเกอร์
” NakamotoLab มีแผนพัฒนา Regulatory-Friendly Digital Asset Frameworks เพื่อให้ไทยก้าวสู่ระดับเดียวกับ Singapore & UAE สอดรับแนวทางและกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ของ SAAM ภายใต้กลยุทธ์ Liquidity Provision และ DeFi Solutions เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย และเอเชีย ผ่านการลงทุนใน FWX และการขยายโครงสร้างพื้นฐาน” นายปรมินทร์ กล่าว
นายชานน จรัสสุทธิกุล เจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi Forward กล่าวว่า แผนการขยายธุรกิจและการเชื่อมโยงกับนักลงทุนสถาบัน ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับ DeFi และ Web3 เป็นอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล และ SAAM ถือเป็นผู้นำรายแรกของประเทศไทย ที่เข้ารุกในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน MicroStrategy
ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำหนดราคาอนุพันธ์และการป้องกันความเสี่ยง Co- founder ของ FWX เจ้าของเพจ ติดเล่า เรื่องลงทุน กล่าวว่า ความร่วมมือของ SAMM และพันธมิตรในครั้งนี้ ทำให้เห็นทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และถือเป็นความท้าทายของการนำบล็อกเชนและ DeFi มาใช้ในภาคการเงิน ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชีย มุ่งเน้น การเปลี่ยนผ่านตลาด DeFi สู่ระดับ Institutional Finance ในอนาคต