HoonSmart.com>> ส่องผลตอบแทน “กองทุนรวมทองคำ” ปิดไตรมาส 1/68 พุ่งตามราคาทองทำ All Time High หนุน “กองทุน GLD” บลจ.กรุงไทย ขึ้นแท่นผลตอบแทนสูงสุดเกือบ 19% ดัน 1 ปีผลตอบแทนกว่า 31% แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางวิตกมาตรการภาษีทรัมป์ 2 เม.ย.นี้ หนุนทองคําโลก-ไทยนิวไฮแตะ 50,700 บาท ด้าน “YLG” เตือนระวังแรงขายหากหลุด 3,100 เหรียญสหรัฐฯ อาจพักตัว ฟาก “บลจ.กรุงไทย” มองราคาทองขาขึ้นเสี่ยง “หมดรอบ”
1 เม.ย.2568 ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All Time High ต่อเนื่อง เปิดตลาดเพิ่มขึ้น 450 บาท แตะ 50,500 บาทละบาท ระหว่างวันแตะสูงสุดที่ 50,700 บาทละบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% และราคาล่าสุดอยู่ที่ 50,600 บาทละบาท รวมปรับราคา 18 ครั้ง
สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคํา Spot ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่อย่างต่อเนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้านทองในประเทศเปิดตลาดต้นเดือนเม.ย. พุ่งแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณ 50,500 บาท
ราคาทองคำตลาดโลกเช้าวันอังคารต้นเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริเวณแถว 3,134 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ เนื่องจากการเดินหน้าเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะทำให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3,100 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ ในเดือนมี.ค. สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในเดือนเดียว และตั้งแต่ต้นปี 2568 ราคาทองคำขึ้นไปแล้ว 19%
กองทุนเคแทม โกลด์ อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (GLD) แชมป์ 18.82%
ด้าน 10 อันดับกองทุนรวมทองคำ ผลตอบแทนสุงสุดในช่วงไตรมาส 1/2568 (1 ม.ค.-31 มี.ค.2568) จากจำนวนทั้งหมด 49 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (GLD) ผลตอบแทน 18.82% อันดับสอง กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH (ES-GOLDRMF-UH) ผลตอบแทน 18.43% อันดับสาม กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่ง-UH (ES-GOLDBULLION-UH) 18.34% อันดับสี่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-H (ES-GOLDRMF-H) 18.33% อันดับห้า กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่ง-H (ES-GOLDBULLION-H) อันดับหก กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดรองรับกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ (TGOLDRMF-P) 18.17%
อันดับเจ็ด กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TGOLDRMF-A) 18.17% อันดับแปด กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ (TGOLD) 18.03% อันดับเก้า กองทุนเปิดอีสท์สปริง Gold (ES-GOLD) 17.20% และอันดับสิบ กองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ (PGOLD) 16.84% ทั้งนี้ ข้อมูลจาก www.settrade.com
YLG เตือนระวังแรงขายหากหลุด3,100 เหรียญสหรัฐฯ จะพักตัว
ด้านบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เผยความเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้ ราคาพักตัวหลังทำ New ATH พร้อมภาวะ Overbought โดยวันนี้หลังยืน 3,100 เหรียญสหรัฐฯ และผ่าน 3,127 เหรียญสหรัฐฯ จึงดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน ทั้งนี้ ยังต้องระวังแรงขายและการไล่ราคา หากหลุด 3,100 เหรียญสหรัฐฯ จะพักตัว แต่พักเพื่อขึ้นต่อในระยะสั้นไม่ควรหลุด 3,087 เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับกลยุทธ์ เข้าซื้อหากราคาไม่หลุด 3,100-3,120 เหรียญสหรัฐฯ หากหลุด 3,100 เหรียญสหรัฐฯ ชะลอซื้อไปที่รับถัดไป (ตัดขาดทุนหากหลุด 3,087เหรียญสหรัฐฯ) แบ่งขายทำกำไร หากราคาไม่ผ่าน 3,150 เหรียญสหรัฐฯ หากผ่านได้ถือต่อไปต้านถัดไป และขยับ Trailing Stop เพื่อ lock กำไร
ปัจจัยหนุนจาก Momentum ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นทำ All Time High ต่อเนื่องที่ระดับ 3,148 เหรียญสหรัฐฯ โดยได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมรัป์” ที่จะประกาศวันที่ 2 เม.ย. ประกอบกับ ที่ปรึกษาของ “คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ออกมาเตือนว่า หากสหรัฐโจมตีอิหร่านด้วยข้ออ้างเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งคำกล่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง “ทรัมป์” ขู่ทิ้งระเบิดใส่อิหร่านหากไม่ยอมทำ ข้อตกลงนิวเคลียร์
บลจ.กรุงไทย ชี้ราคาทองขาขึ้นเสี่ยง “หมดรอบ”
ด้านบลจ.กรุงไทย (KTAM) มีมุมมองต่อราคาทองคำว่า ราคาทองขาขึ้นเสี่ยง “หมดรอบ” DOGE ลุยตัดรายจ่ายรัฐบาลน่าจะส่งผลให้งบประมาณของสหรัฐขาดดุลน้อยกว่าที่ดคยกังวลกัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้าช่วงเร่งกระบวนการ AI Adoption อาจทำให้มีคนว่างงานมากขึ้นในเชิงโครงสร้าง ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาว “ต่ำลง” ลดความต้องการ “สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ (inflation hedge) นอกจากนี้ สงครามใหญ่ๆ เช่น ยูเครน ตะวันออกกลาง มีแนวโน้มจะสิ้นสุดลง ความต้องการถือครอง “สินทรัพย์ปลอดภัย” (safe haven) ก็น่าจะน้อยลง
ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนราคาทองที่สำคัญที่สุดในปีนี้คือ “จีนซื้อตุนเข้าทุนสำรอง”(เพื่อลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐ) ก็อาจจะชะลอการซื้อลงในอนาคต เนื่องจากกำแพงภาษีรอบใหม่ของทรัมป์บีบจีนให้ปรับสมดุลเศรษฐกิจโดยลดการพึ่งพาการผลิต/ส่งออก แล้วหันไปกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ผลกระทบต่อเนื่องคือ จีนเกินดุลการค้าน้อยลง” อัตราการสะสมทุนสำรองก็จะช้าลงตามไปดัวย จึง “Underweight” การลงทุนในทองคำ