บล.ทิสโก้คาด Vitual banking ไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มแบงก์

HoonSmart.com>> “คลัง” ประกาศหลักเกณฑ์ไลเซ่นส์ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เปิดยื่นขอไลเซ่นส์ภายใน 6 เดือนด้าน “บล.ทิสโก้” มองผลกระทบจะไม่เกิดขึ้นทันที ใช้เวลาหลายปีกว่าแจ้งเกิด คาดไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมและงบแบงก์ที่คาดการณ์ไว้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” TTB

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาต และการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เพื่อเพิ่มประเภท และจำนวนผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับการแข่งขันในระบบสถาบันการเงินและส่งผลดีต่อประชาชน โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567

สาระสำคัญของประกาศฯ มีดังนี้

1. กำหนดให้ผู้ขออนุญาต ต้องมีคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ และทรัพยากรที่เพียงพอ ในการช่วยสนับสนุนธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ความเชี่ยวชาญในการใช้งานเทคโนโลยี และการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล รวมทั้งมีธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้ผู้ที่ได้รับอนุญาต สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือ

2. ผู้ขออนุญาต สามารถยื่นคำขออนุญาตผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ประกาศฯ มีผลบังคับใช้ พร้อมกับหลักฐาน และข้อมูลประกอบการพิจารณาตามที่ประกาศฯ กำหนด

3. ธปท. และกระทรวงการคลัง จะร่วมกันพิจารณาคำขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank ภายใน 9 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นคำขอ

4. เมื่อได้รับอนุญาตจาก รมว.คลังแล้ว ผู้ขออนุญาตต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคง การบริหารความเสี่ยง เป็นต้น และเริ่มดำเนินธุรกิจภายใน 1 ปี

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ เปิดเผยว่า ร่างประกาศมีรายละเอียดคล้ายกับร่างที่นำเสนอในการรับฟังความคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Vitual banking)ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากใบอนุญาตธนาคารดิจิทัลต่อภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมหรือการคาดการณ์ทางการเงินของบล.ทิสโก้ สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารภายใต้การวิเคราะห์บล.ทิสโก้ ด้วยเหตุผล 3 ประการ

ประการแรก เป็นไปได้มากว่ารนาคารขนาดใหญ่ที่มีอยู่จะได้รับใบอนุญาตตามข้อกำหนดเบื้องต้นที่เอื้ออำนวยในปัจจุบันตัวอย่างเช่น ผู้มีโอกาลได้รับใบอนุญาตกลุ่มกิจการร่วมค้าจะต้องมีประวัติที่มั่นคงในธุรกิจขนาคา โดยส่งเสริมให้มี “วัฒนธรรมความเสี่ยง” และการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจ เช่นเดียวกับที่ธนาคารพาณิชย์ทำ พวกเขาจะต้องมีเงินทุน 5 พันล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มเป็น 1.0 หมื่นล้านบาท ดังนั้น กิจการร่วมใดๆ ที่มีขนาคารขนาดใหญ่เป็นพาร์ทเนอร์จะมีโอกาสได้รับใบอนุญาตมากขึ้น

ประการที่สอง การขาดสขาทาง physical ไม่ใช่ข้อได้เปรียบใหญ่เมื่อต้องแข่งข้นกับผู้ครอบครองตลาด เห็นได้ชัดว่จุดชายหลักของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาคือ การประหยัดคำใช้จ่ายในสถานที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับธนาคารไทยกลุ่มนี้ยังมีสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับเงินลงทุนทั้งหมด กลุ่มนี้ใช้เงินไปกับการซื้อสถานที่และอุปกรณ์จำนวน 3.97 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรบางส่วนสามารถประหยัดได้เมื่อเทียบกับผู้ที่เปิดสาขาที่มีสาขามากกว่า แต่เราเชื่อว่าคำใช้จ่ายส่วนนี้เด็กน้อยเมื่อเทียบกับคำใช้จ่ายบุคลากรทั้งหมด

ประการที่สาม การเพิ่มเงินฝากจะเป็นความทำาทาย นี่คือความท้าทายที่สำคัญสำหรับธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา แฟรนไชส์เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน (โดยเฉพาะ Big Four) มีความแข็งแกร่งมาก พวกเขาจ่ายอัตราดอกเบี้ยเพียง 30bps ในบัญชีออมทรัพย์ของพวกเขา ดังนั้นคำใช้จ่ายในสถานที่ทั้งหมดคิดเป็น 236ps ของเงินฝากทั้งหมด ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาที่จะต่อสู้เพื่อส่วนแบ่งตลาดเงินฝาก

สุดท้ายนี้ แม้ว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้เริ่มทคสอบธุรกิจนี้แล้ว แต่ยังไม่มีไครประสบความสำเร็จในธุรกิจ Digital Lending ของไทย และต้องรอดูว่า Crodt Score ของโมเดลเสมือนจริงจะสามารถใช้งานไห้จริงหรือไม่ ชนาคารที่ใหญ่ที่สุดที่พยายามดำเนินธุรกิจ คือ KBANK ผ่าน Line BK: จบลงด้วยcredit cost ที่สูง (*22.8% ในปี 2565) และยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินการลงทุน MONIX และ ABACUS ของ SCB

นอกจากนี้บล.ทิสโก้ มองผลกระทบของการประกาศใบอนุญาตจะไม่เกิดขึ้นทันที เนื่องจากกระบวนการจะใช้เวลานานหลายปี ผู้สนใจสามารถยื่นคำขอได้ภายใน 6 เดือนนับจากประกาศเมื่อวาน และกระบวนการตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศไทย จะใช้เวลา 9 เดือน หลังจากนั้นกิจการค้าร่วมจะต้องจัดตั้งธุรกิจใหม่ภายใน 1 ปี ดังนั้นเราอาจไม่เห็น ‘ธนาคารพาณิชย์ไร้ สาขา’ ที่ได้รับอนุญาตจริงๆ จนกว่าจะถึงกลางปี 2569 จากนั้นจะใช้เวลาสองสามปีก่อนที่สินเชื่อจะเพิ่มมากขึ้น และเราสามารถประเมินผลกระทบที่แท้จริงต่อธนาคารพาณิชย์ได้

ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TTB โดยมีมูลที่เหมาะสมเท่ากับ 2.50 บาท