FM เป้ายอดขาย 3 ปีแตะหมื่นล้าน รุกขยายตลาด UAE, ฟิลิปปินส์. ซาอุดีอาระเบีย

HoonSmart.com>>”ฟู้ดโมเม้นท์”(FM) ปี 68 เป้ารายได้โต 12-15% จากไก่แปรรูปเป้าโต 20-25% ส่วนไก่ชำแหละโต 5-7% มาร์จิ้นโต 13-15% วางงบลงทุนปีนี้ 300-400 ล้านบาท เน้นใช้ขยายผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป โดยราคาวัตถุดิบปีนี้คาดทรงตัวจากปี 67 ส่วนราคาขายใกล้เคียงปีที่แล้ว พร้อมวางเป้ายอดขาย 3 ปี (2568-2570) แตะ 1 หมื่นล้านบาท โต 35% จากปี 67 เล็งขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น โดยรุกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฟิลิปปินส์ และซาอุดีอาระเบีย

นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) เปิดเผยว่า เป้าหมายปี 2568 รายได้เติบโต 12-15% จากการเติบโตยอดขายปี 2567 โดยมาจากการเติบโตของไก่แปรรูป 20-25% และไก่ชำแหละ 5-7% โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit Margin) มีเป้าเติบโต 13-15% ของยอดขาย ซึ่งมาจากการบริหารจัดการไปตลาดต่าง ๆ ที่ทำให้ได้กำไรดี และทำผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปให้ได้มากสุดก่อน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นกว่าบริษัทไก่ในกลุ่มไก่ด้วยกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เติบโต 4.5-5% ของยอดขาย ต้นทุนทางการเงิน 0.3-0.5% ของยอดขาย

อัตราภาษีจริง (Effective Tax Rate) 10-12% โดยบริษัทได้มีการยื่น BOI ขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีฯโรงชำแหละเมื่อเดือนมี.ค. ทำให้น่าจะเห็นผลได้ในปีนี้ พร้อมตั้งงบลงทุนปี 2568 ไว้ 300-400 ล้านบาท โดย 60% จะใช้ขยายผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป และอีก 40% ใช้ในโรงชำแหละ สำหรับราคาต้นทุนวัตถุดิบปี 2568 คาดว่าจะทรงตัวจากปี 2567 ส่วนราคาขายในปี 2568 เป็นความท้าทายจากปัจจัยเงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) ทำให้มองว่าราคาขายปีนี้น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2567

นายณัฐพล ดุษฏีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM กล่าวว่า เป้าหมายยอดขาย 3 ปี (2568-2570) แตะ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 35% จากปี 2567 ที่มี 7,340 ล้านบาท ซึ่งมาจากสัดส่วนไก่ชำแหละ 35% และไก่แปรรูป 70% โดย CAGR 13% ต่อปี มาจากลูกค้าปัจจุบัน 4% ต่อปี และจากลูกค้าใหม่ 9% ต่อปี โดยเดินหน้ากลยุทธ์ความแข็งแกร่ง ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการอาหาร การผลิตที่กำหนดเอง และสร้างโอกาสร่วมมือกับ QSR และผู้ค้าปลีกแบรนด์ระดับโลก, ขยายไปยังประเทศใหม่ เอเชีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฟิลิปปินส์

“FM มีโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยไทยส่งออกไก่ดิบเป็นอันดับ 4 ของโลก ส่วนไก่แปรรูปติดอันดับ 1 ของโลก ซึ่งเรากินมาร์เก็ตแชร์ส่วนไก่แปรรูป 28% โดยเรายังมีโอกาสส่งออกได้อีกมาก ซึ่งเราพึ่งเปิดตลาด UAE ไปเมื่อปีที่แล้ว และปี 2568 ก็มองตลาดฟิลิปปินส์ไว้ที่มีแผนจะเข้าไปทำตลาด ส่วนซาอุดีอาระเบียคาดว่าจะเข้าไปในปี 2569”

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเพียง 15 ประเทศที่อนุมัติให้จำหนายไก่ปรุงสุกจากไทย คือ ญี่ปุ่น, เม็กซิโก้, สหราชอาณาจักร (UK), จีน, ยุโรป, ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก, ฟิลิปปินส์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และแอฟริกาใต้

“เราส่งออกไปยุโรปเยอะ แม้ยุโรปเศรษฐกิจจะหดตัว ผู้บริโภคอาจ Sensitive เรื่องราคา แต่จะเห็นได้ว่าวอลุ่มของเราเพิ่มขึ้นชัดเจน…ไก่ไทยไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา”

นายณัฐพล กล่าวว่า ปีนี้ซัพพลายไก่ตลดโลกมีปัจจัยบวกต่อไก่ไทย จากที่มีโรคระบาดรุนแรงในสหรัฐอเมริกา และโปแลนด์ ทำให้ซัพพลายไก่ลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ความต้องการ (Demand) ไก่แปรรูปปรุงสุกขาขึ้นอย่างชัดเจน คนหันมาบริโภคแบบพร้อมใช้เลยกันมากขึ้น ซึ่งเห็นการเติบโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เทรนด์มาชัดเจน

ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร อยู่ในช่วงของการศึกษา มีทั้งร่วมทุนลักษณะ JV การศึกษาออกแบบสร้างโรงงาน คาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 2-3 ปีนี้ โดยจะใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท ในช่วงเวลาลงทุนในไตรมาส 3/2568 และจะ COD ได้ในไตรมาส 4 ปี 2569