โดย …นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ
หลังจากบิทคอยน์อ่อนตัวหลุดแนวรับ $6,000 ประกอบกับอารมณ์ตลาดก็ไม่สู้ดีนัก ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก จนลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ $4,125 มูลค่าการตลาดหายไปทันทีกว่า $ 30B โดยที่ Altcoin หลาย ๆ ตัวในกลุ่ม top 20 ก็ติดลบไปกว่า 30-40% ในรอบเพียง 7 วัน
สำหรับสาเหตุการตกลงอย่างหนักของตลาดเงินดิจิทัลในครั้งนี้ ผมว่า ยังไม่มีสาเหตุชัดเจนทีเดียว แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากข้อขัดแย้งจากการทำ Hard Fork ของ Bitcoin Cash (BCH) ซึ่งมีมูลค่าการตลาดเป็นอันดับ 4 จนทำให้เกิดการแตกของเหรียญออกเป็น 2 ค่าย คือ BCHABC และ BCHSV และมีการต่อสู้แย่งชิง Hash power กัน ทำให้ตลาดเกิดความไม่มั่นใจ และชิงเทขายกันออกมา จนเกิด Panic sell ตามมาเป็นระลอก ๆ
ถึงแม้ล่าสุด (ขณะเขียนบทความ) ราคาบิทคอยน์จะปรับขึ้นมายืนแถว ๆ $4,500 ได้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าหากบิทคอยน์ไม่สามารถรีบาวด์กลับไปยืนเหนือ $5,000 ได้ในวันสองวันนี้ ราคาก็น่าจะอ่อนตัวลงสู่ระดับ $4,000 ในที่สุด และจุดที่น่าสนใจเข้าลงทุนก็คือระดับราคาประมาณ $3,500 ซึ่งจะเป็นจุดที่บิทคอยน์น่าจะรีบาวด์กลับไปที่ $5,000
ในตลาดเมืองไทย ราคาบิทคอย์ เคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ150,000 บาท (ข้อมูลจากเวปเทรด Bx.in.th) มีปริมาณการซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 300 BTC และ Ethereum ราคาเหลือเพียง 4,500 บาท เท่านั้น ทำให้นักลงทุนขาดทุนกว่า 30% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เวลานี้ถือเงินสดไว้ก่อนดีที่สุดครับ
Disclaimer: เนื้อหาในบทความนี้เขียนจากความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน และผู้เขียนก็มิได้เป็นผู้แนะนำด้านการเงินการลงทุน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน