บล.กสิกรไทยลุ้น 1,200 สัปดาห์หน้า จับตาสงครามการค้า-ฟันด์โฟลว์

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับ 1,165 และ 1,155 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,210 จุด จากสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นทดสอบ 1,200 จุดแล้วปรับตัวลง ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.60-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (24-28 มี.ค.2568) ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,165 และ 1,155 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,210 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.พ. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 (final) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนกำไรบริษัทอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ของจีน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงแรก ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคก่อนการประชุมเฟด ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนหุ้นไทยจากนักลงทุนหลังดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ โดยแรงซื้อหลัก ๆ อยู่ในกลุ่มแบงก์ จากความคาดหวังเรื่องเงินปันผลก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งในระหว่างสัปดาห์ก็มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการประกาศจ่ายเงินปันผลกรณีพิเศษของแบงก์ใหญ่แห่งหนึ่ง รวมถึงกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น

ดัชนีหุ้นย่อตัวลงช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงขายทำกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งหนึ่งก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP ตามขั้นตอนของการควบรวมกิจการ ก่อนจะขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มแบงก์และพลังงานเข้ามาหนุน

ในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,186.61 จุด ปรับขึ้น 1.09% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,942.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.15%  ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.17% มาปิดที่ระดับ 246.58 จุด

ส่วนค่าเงินบาท สัปดาห์ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.60-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์  และตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ. ของไทย

ในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 มี.ค.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-21 มี.ค. 2568 นั้นขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 3,501.8 ล้านบาท และ 669 ล้านบาท ตามลำดับ

เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกเหนือแนว 3,000 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ไม่ได้รับแรงหนุนมากนัก แม้บอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ จะขยับขึ้นในช่วงก่อนการประชุมเฟด

อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาบางส่วนตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ที่ระดับ 3,057.49 ดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์) ประกอบกับมีแรงกดดันด้านอ่อนค่าเพิ่มเติมจากแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับอานิสงส์จากสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยของเฟด (แม้จะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงมาในการประชุม FOMC รอบที่ผ่านมาก็ตาม)