CPF เผยปี 66 รายได้จากการขาย 5.86 แสนลบ. ลุยปรับแผนหนุนผลงานปี 67 ฟื้นตัว

HoonSmart.com>> “เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” (CPF) เปิดงบปี 66 รายได้จากการขายที่ 585,844 ล้านบาท ลดลง 4.6% จากปีก่อน ชี้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่ง ราคาสุกรร่วงเซ่นหมูเถื่อน ฉุดขาดทุนสุทธิ 5,207 ล้านบาท มั่นใจผลดำเนินงานปี 67 ดีขึ้น ลุยปรับแผนรับกำลังซื้อชะลอ หมูเถื่อน ด้านต้นทุนอาหารสัตว์อ่อนตัวลงช่วยหนุน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) รายงานผลการดำเนินงานปี 2566 มีรายได้จากการขายจำนวน 585,844 ล้านบาท เป็นส่วนของกิจการที่ลงทุนในต่างประเทศ 62% กิจการที่ขายในประเทศไทย 32% และรายได้จากการส่งออกจากประเทศไทย 6% โดยรายได้จากการขายรวมลดลง 4.6% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาสุกรที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นมาก และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่นำมาใช้ในการแปลงค่างบการเงินของบริษัทย่อยต่างประเทศ

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน ปี 2566 เป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก ต้นทุนด้านต่างๆ ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ค่าพลังงาน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งกำลังซื้อที่ยังอ่อนตัวในหลายประเทศ ส่งผลให้เกิดภาวะเนื้อสัตว์ล้นตลาดในหลายประเทศ ทำให้ระดับราคาสินค้าไม่สามารถสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายกดดันราคาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก อีกทั้ง ราคาสุกรในประเทศจีนลดลงจากภาวะล้นตลาด ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมในประเทศจีนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 จึงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 5,207 ล้านบาท โดยบริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงาน ให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพและการใช้กำลังการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีแผนกลยุทธ์ระมัดระวังในการลงทุนขยายงานและค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความพึงพอใจของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

นายประสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า กำลังซื้อที่ยังไม่มีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนในหลายประเทศ และการนำเข้าสุกรที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ยังคงเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรม ผลจากการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง รวมทั้งการจำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนในประเทศจีนในปีที่ผ่านมา ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2567 จะดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาแน่นอน