HoonSmart.com>>”เซ็นทรัลพัฒนา” (CRC) ครบรอบ 45 ปี พัฒนาเมกะโปรเจกต์ ปั้น New CBD ใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล บุก 4 ภาค ลั่นประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพฯ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลุยลงทุน 5 ปี งบ 120,000 ล้านบาท ต่อยอดทุกธุรกิจสร้างผลงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ‘Central Park’ พบกัน ส.ค.นี้ ‘The Central’ พหลโยธิน เปิดปลายปี 69 ปลุกย่านกำลังซื้อสูงควบคู่เซ็นทรัล ลาดพร้าว มุ่ง ESG สร้างการเติบโตยั่งยืน
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า ตลอด 45 ปี เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนา Retail-Led Mixed-Use Development ที่ให้ความสำคัญกับ 4 เรื่อง ได้แก่ Best Location, Best Catchment Analysis, Best Master Planning การวางแผนและออกแบบให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันอย่างลงตัวและ Best Partners ที่มีความเชี่ยวชาญ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จ All Time High ในทุกมิติและในทุกธุรกิจทั้งค้าปลีก-ที่พักอาศัย-โรงแรม-สำนักงานพร้อมกันทั้ง Ecosystem
สำหรับแผน 5 ปี (2568-2572) เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องกว่า 120,000 ล้านบาท ประกาศแผนพัฒนาโครงการเมกะโปรเจกต์ และโครงการใหม่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่จะทยอยเปิดตัวภายใน 5 ปี เริ่มต้นที่โครงการ ‘Central Park’ ทั้งศูนย์การค้าและออฟฟิศจะเปิดประมาณเดือน ส.ค.นี้ ด้วย Magnet แบรนด์ดังเพียบ รวมถึง 3 โครงการใหม่ นำโดยเมกะโปรเจ็กต์แห่งอนาคต ‘The Central’ พหลโยธิน จะเปิดปลายปี 2569 ปลุกย่านเติบโตควบคู่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปั้น New CBD แห่งใหม่องรับการเติบโตก้าวกระโดดและดีมานด์ใหม่ของกรุงเทพฯ ตอนบน และ ‘Central Northville’ มิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ที่สุดใจกลางนนทบุรี พร้อมด้วย ‘Central Khonkaen Campus’ โครงการแห่งที่ 2 ในจังหวัดขอนแก่น พร้อมมีแผนพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ในย่านพระราม 1, พระราม 9, เพลินจิต และอีกหลายโครงการในแผนงาน ภายในสิ้นปีนี้จะมีทั้งสิ้น 135 โครงการจากทุกธุรกิจ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสรวมทั้งสิ้น 30 โครงการจากทั้งหมด 44 ทำเลศักยภาพ
“ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (destination) จำนวน 67 ล้านคนและมีคนเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1.4 ล้านคน ส่วนธุรกิจอาคารสำนักงาน มียอดใช้พื้นที่มากกว่า 90% จุด แข็งของเราดึงดูดบริษัทชั้นนำของโลกมาใช้บริการ ส่วนห้างของเรา แบรนด์ดังๆของโลกเข้ามา และมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น รองรับกับความต้องการที่สูงขึ้น และใช้ดาต้ามาบริหารจัดการทุกระดับ ทำให้ทีมงานเป็น AI เพื่อตอบโจทย์ตวามต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ส่วนเรื่องความยั่งยืนเราให้ความสำคัญ ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ให้การสนับสนุนกว่า 5,000 ล้านบาท เป็นอสังหาฯเจ้าแรกที่ออกกรีนบอนด์ และติดอันดับดัชนี DJSI มาอย่างต่อเนื่อง7 ปี”นางสาววัลยากล่าว
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล President, Retail and Development บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพฯ เซ็นทรัลพัฒนา บุกเบิกและสร้าง Centre of Life ไปทุกย่าน ทุกเมือง ทั่วประเทศ โดยภายในไม่กี่ปีนี้ จะมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น ‘Central Park’ (เซ็นทรัล พาร์ค) ขณะนี้แบรนด์ระดับโลกเตรียมเปิดแล้วเกือบเต็มพื้นที่ รวมกว่า 230 แบรนด์ โดยจะมีแบรนด์ First-Time in Thailand และคอนเซ็ปต์ใหม่อย่างมากมาย นำโดยแบรนด์แฟชั่นระดับโลกของ Inditex group ขยายทุก แบรนด์ในเครือ มี High-Street & Bridge-Line Brands, Prestige Cosmetic Brands และ Sport Destination ที่แบรนด์ดังระดับโลกมาครบครัน นอกจากนี้ อาณาจักรร้านอาหารแบรนด์ไทยอย่าง Iberry Group เปิดพร้อมกันถึง 7 แบรนด์ และ Michelin Street Food มากมาย และร้านดังคอนเซ็ปต์ใหม่ไม่เคยมีมาก่อน
‘The Central’ พหลโยธิน (เดอะ เซ็นทรัล) เป็น The Future Place for All ศูนย์การค้าระดับ Flagship แห่งอนาคตที่จะรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่สำหรับทุกคน เป็น Gateway ดึงดูดดีมานด์ใหม่จาก Catchment กรุงเทพฯ ตอนบน และ Quality Shoppers จากจังหวัดใกล้เคียง โดยจะเติบโตควบคู่กับ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นมิกซ์ยูสแห่งแรก และเป็นแลนด์มาร์กของย่านมาพร้อมกับที่ก่อตั้งบริษัทฯ มา 45 ปี จึงเข้าใจผู้บริโภคเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีดีมานด์ที่เติบโตจากความหนาแน่นของประชากรที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มลูกค้าใหม่ จึงมีศักยภาพที่พร้อมสำหรับการมีศูนย์การค้าเซ็นทรัล 2 แห่ง ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและส่งเสริมความเจริญของย่านนี้ โดย The Central พหลโยธิน จะดึงดูด Global Brands มาเปิด Flagship Store ครั้งแรกในไทยเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเตรียมเปิดช่วงไตรมาสที่ 4/2569 และยังมีแผนพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต
น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ CFO and President, Hotel and Office บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จ All-Time High ในทุกมิติทั้งรายได้รวมที่ 51,843 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16,729 ล้านบาท สร้างผลตอบแทนที่สูงแก่ผู้ถือหุ้น อีกทั้งดึงดูด All-Time High Traffic รวมกว่า 500 ล้านครั้งต่อปี และมีนักท่องเที่ยวมาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลถึง 67 ล้านต่อปี สำหรับธุรกิจไม่ใช่ค้าปลีกประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยธุรกิจที่พักอาศัยเติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง คอนโดมิเนียมติดศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้รับความนิยมสูง ทั้งเอสเซ็นท์ นครสวรรค์, นครปฐม, นครศรีธรรมราช ขายหมดอย่างรวดเร็ว ขณะที่ธุรกิจโรงแรมขยายต่อเนื่อง ปีที่แล้วเปิด Hilton Garden Inn Rayong และเดินหน้าเปิด GO! Hotel อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจสำนักงานมีความแข็งแกร่ง โดยปลายปีที่ผ่านมามีอัตราการใช้บริการกว่า 90%
นอกจากนี้ ทีมผู้บริหารระดับสูงของเซ็นทรัลพัฒนาโดย ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer และ คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing – Fashion & Luxuryd กล่าวถึงกลยุทธ์ผลักดันยอดขายและสร้างความสำเร็จเป็น Trusted Partner ที่พร้อมผลักดันให้พันธมิตรเติบโตไปพร้อมกัน โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลประสบความสำเร็จเป็น Thailand’s Largest Retail Destination for Global Brands ซึ่งปัจจุบันกว่า 80% ของแบรนด์ระดับโลกเลือกมาเปิดบริการครั้งแรกในประเทศไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และมี Flagship Stores มากถึง 50 ร้าน หลายแบรนด์มีสาขาที่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายในระดับสูงติดอันดับ
สำหรับอีกหนึ่งความสำเร็จในการดูแลพาร์ทเนอร์คู่ค้า คือการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจด้วย The 1 Biz เครื่องมือ CRM ที่ช่วยขับเคลื่อนยอดขาย ล่าสุดแบรนด์ที่เข้าร่วมมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 3 เท่า ปีที่ผ่านมาสมาชิก The 1 แลกพอยท์ในโซนร้านค้ากว่า 300 ล้านพอยท์ และบิลที่สะสมพอยท์สูงสุดแตะ 3.4 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้สร้าง Experience Application ‘Central X’ เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์แบบ O2O
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG ตลอด 45 ปี ได้สนับสนุนสังคมและชุมชนกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน, พื้นที่สาธารณประโยชน์ และโอกาสทางการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม เราเดินหน้าสู่ Net Zero 2050 ได้รับการจัดอันดับ DJSI Best-in-Class 7 ปีซ้อน และเป็นอสังหาฯ รายแรกที่ออกกรีนบอนด์ อีกทั้งทุกศูนย์การค้าติดตั้ง Solar Rooftop, EV Charging Station พร้อมขับเคลื่อนโครงการ Green Partnership เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับพันธมิตรร้านค้า
———————————————————————————————————————————————————–
