ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 383 จุด เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 383 จุด เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.39%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 19มีนาคม 2568 ปิดที่ 41,964.63 จุด เพิ่มขึ้น 383.32 จุด หรือ +0.92% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญานว่ามีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,675.29 จุด เพิ่มขึ้น 60.63 จุด, +1.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,750.79 จุด เพิ่มขึ้น 246.67 จุด, +1.41%

ที่ประชุมเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%- 4.5% ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ อย่างไรก็ตาม เฟดยังคงคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งครั้งละ 0.25% รวม 0.50%ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมีมากขึ้น

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวระหว่างแถลงข่าวภายหลังการประกาศผลการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เศรษฐกิจโดยรวมแข็งแกร่งและมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการเข้าสู่เป้าหมายของเราในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สภาวะตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อขยับเข้าใกล้เป้าหมายระยะยาว 2% ของเรามากขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงขึ้นบ้างก็ตาม”

แม้เฟดบ่งชี้การคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ประธานเฟดก็ยืนยันกับนักลงทุนว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้อน่าจะเป็นเพียง “ชั่วคราว” และความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ในระดับต่ำ

เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ลงเป็น 1.7% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.1% และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ เป็น 2.8% จากประมาณการเดิมที่ 2.5%

เอริก ดิตัน ประธานและกรรมการผู้จัดการของ The Wealth Alliance ชี้ว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้เฟดปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ

“คราวที่แล้ว พวกเขาบอกว่าความเสี่ยงนั้นสมดุล ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้พูดแบบนั้น และใช้คำว่า ‘ความไม่แน่นอน’ ตั้งแต่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 5 เฟดใช้คำว่า ‘ความไม่แน่นอน’ ถึง 47 ครั้ง ซึ่งมากกว่าช่วงโควิด มากกว่าช่วงวิกฤติทางการเงิน มากกว่าช่วงฟองสบู่เทคโนโลยีแตก ดังนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนที่สุดเท่าที่เคยมีมา และทุกคนรู้ว่าอยู่ที่ที่ทรัมป์และภาษีศุลกากร ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เฟดกำลังพูด”

แมทเทียส ไชเบอร์ หัวหน้าทีมโซลูชันสินทรัพย์หลายประเภทของ Allspring Global Investments ในลอนดอน กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและผลกระทบต่อการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เฟดจึงใช้แนวทาง “รอและดู” ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยตามที่หลายคนคาดการณ์กันไว้ และเชื่อว่าช่วงเวลาถัดไปที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยคือเดือนพฤษภาคมหรือหลังจากนั้น
หุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากภาะเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยโดยกลุ่มการเงินบวก 1.3% กลุ่มอุตสาหกรรมบวก 1.5% กลุ่มพลังงานบวก 1.9%

หุ้น Boeing เพิ่มขึ้น 6.8% หลังจากซีเอฟโอระบุว่า การใช้เงินสดของบริษัทลดลง และโรงงานต่างๆ เริ่มฟื้นตัว และบริษัทคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรในระยะเวลาอันใกล้นี้
ในวันพฤหัสบดี ข้อมูลเศรษฐกิจที่กำหนดเผยแพร่ได้แก่การยื่นขอสวัสดิการว่างงานและยอดขายบ้านมือสอง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนหน้า ด้วยแผนการใช้จ่ายครั้งใหญ่ของเยอรมนี ขณะที่นักลงทุนจับตาการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่จะออกมาหลังปิดตลาด

นักลงทุนต่างรอความเห็นจากผู้กำหนดนโยบายของเฟด ท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าโลกและความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลก ในขณะที่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย

Barclays ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี STOXX 600 สำหรับสิ้นปีนี้ โดยชี้ไปที่การปฏิรูปการคลังของเยอรมนีว่าเพิ่มแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของภูมิภาค
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและพลังงานเป็นหุ้นที่ส่งแรงหนุนดัชนีมากที่สุด โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก
เพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่หุ้นกลุ่มโทรคมนาคมปิดตลาดที่ระดับต่ำสุด
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของโซนยูโรเมื่อเดือนที่แล้วต่ำกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก ซึ่งช่วยคลายความกังวลที่ว่าแรงกดดันด้านราคาที่รุนแรงเกินคาดอาจเป็นอุปสรรคต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป( ECB) ครั้งต่อไป

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาได้หารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของรัสเซียและยูเครน รวมถึงความต้องการข้อตกลงสันติภาพในการโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ซึ่งทำให้มีความหวังว่าความขัดแย้งจะพัฒนาไปในทางบวก
ตุรกียังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากทางการได้ควบคุมตัวคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของประธานาธิบดีไตยยิป เออร์โดกัน ในข้อกล่าวหา คอร์รัปชันและช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้าย
ธนาคารแห่งอังกฤษคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่555.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด, +0.19%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,706.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด, +0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด 8,171.47 จุด เพิ่มขึ้น 56.90 จุด, +0.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,288.06 จุด ลดลง 92.64 จุด, -0.40%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 67.16
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 70.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล