HoonSmart.com >> ALT โชว์ผลงานงวดปี 66 ฟื้นตัวกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท กวาดรายได้กว่า 1,466 ล้านบาท โต 27.7% ธุรกิจติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปรุ่ง-บริการโครงข่ายโตต่อเนื่อง มีงานรอรับรู้รายได้ในมือ 3,720 ล้านบาท
นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัทเอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัท 2566 กำไรสุทธิ 21.99 ล้านบาท เทียบงวดปี 2565 ขาดทุนสิทธิ 107.88 ล้านบาท เติบโต 129.88 ล้านบาท หรือ 120.38% ซึ่งปี 2565 มีการตั้งสำรองผลขาดทุนจากการด้อยค่าทรัพย์สิน 97.61 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 3,720 ล้านบาท”
กำไรขั้นต้น 220.86 ล้านบาท เติบโต 9.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า มีกำไรขั้นต้น 202.04 ล้านบาท และหากพิจารณากำไรขั้นต้นแยกตามกลุ่มธุรกิจ ปี 2566 กำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจขายสินค้าและให้บริการโครงข่ายเพิ่มขึ้น 354.1% และ 47.0% ตามลำดับ
รายได้รวม 1,466.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ที่มีรายได้ 1,148.27 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากขายสินค้า 508.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429.8% เป็นผลมาจากการจำหน่ายมิเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ และแผงโซล่าร์เซลส์ รวมทั้งรายได้จากการให้บริการโครงข่าย เป็นรายได้ประจำเพิ่มขึ้น 32.3% เป็น 614.77 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้บริการติดตั้งวางระบบ 342.78 ล้านบาท ลดลง 41.7%
ปัจจุบันบริษัท ฯ ลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม โครงข่ายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง วางโครงข่ายหลัก (Backbone Network) ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการสร้างสถานีฐาน เพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายของผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย โดยลงทุนผ่านกิจการร่วมค้า คือ บริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด (SIC) และ บริษัท อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (IH) เพื่อให้บริการลูกค้าภายในประเทศ และ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด (IGC) ให้บริการลูกค้าต่างประเทศ รวมถึงลงทุนผ่าน บริษัทร่วมคือ เมียนมาร์ อินฟอร์เมชั่น จำกัด (MIH) ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าในเมืองย่างกุ้ง
นอกเหนือจากโครงการลงทุนสถานีชายฝั่งเชื่อมต่อโครงข่ายใต้ทะเลที่จังหวัดสตูลที่ได้ส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้ว บริษัทยังมีแผนจะขยายโครงข่ายเพื่อเชื่อมต่อสถานีชายฝั่งจากฝั่งตะวันตกที่จังหวัดสตูลไปถึงชายฝั่งด้านตะวันออกในจังหวัดสงขลา ในลักษณะ Data Land Bridge ของประเทศเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า OTT ต่างประเทศที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ส่วนของธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ บริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งการจำหน่ายและติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาหรือ โซล่าร์รูฟท็อป รวมทั้งเป็นผู้ลงทุนและติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ให้กับลูกค้าแบบ Private PPA ส่งผลให้สิ้นปี 2566 บริษัทได้เข้าทำสัญญา กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน รวมกันกว่า 30 สัญญา กำลังการผลิตรวม 17 MWh มูลค่าเงินลงทุนราว 400 ล้านบาท มูลค่ารายได้รวมตลอดอายุสัญญากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดรับให้กับบริษัทราว 60 ล้านบาทต่อปี
สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านกิจการไฟฟ้า บริษัทมีส่วนร่วมโดยตรง เป็นผู้ชนะการประมูลการวางระบบเครือข่ายการจ่ายกระแสไฟฟ้า สมาร์ทกริด ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมกับติดตั้งสมาร์ทมิเตอร์จำนวน 120,000 มิเตอร์ ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการนำร่องของประเทศไทย ดำเนินการแล้วเสร็จและส่งมอบงานไปแล้ว คาดว่าโครงกาสมาร์ทกริด จะขยายขนาดให้ครอบคลุมหัวเมืองสำคัญอื่น ๆ ทั่วประเทศ
นอกจากนั้น ปีที่ผ่านมา 2566 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้มีโครงการเปลี่ยนมิเตอร์แบบจานหมุนเป็น อิเล็กทรอนิคมิเตอร์ โดยบริษัทได้ร่วมประมูลและชนะการประกวดได้รับงานจำหน่ายและติดตั้งอิเล็กทรอนิคมิเตอร์ ในเขตจังหวัดปทุมธานี สระบุรี ปราจีนบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม จำนวนราว 300,000 มิเตอร์ มีแผนการส่งมอบภายในไตรมาส 2 ปี 2567