HoonSmart.com>> SINO ชูเบอร์ 1 ขนส่งสินค้าทางเรือ ตั้งเป้าปี ’68 กวาดรายได้ 4,300 ล้านบาท โต 16% รุกขยาย Air Freight ปิดดีลเซ็นสัญญา เม.ย.นี้ เติมรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท พร้อมเปิดเส้นทางเดินเรือเวียดนาม-สหรัฐ และภูมิภาคอื่น “นันท์มนัส” ซีอีโอ ปักธง 5 ปี รายได้แตะ 10,000 ล้านบาท
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี’ 68 ตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ 4,300 ล้านบาท หรือ 16% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,800 ล้านบาท และปริมาณตู้ขนส่งสินค้า 53,000 ตู้ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน
บริษัท ฯ เดินหน้าขยาย Air Freight หลังจากควบรวมกิจการกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรายได้ Air Freight ประมาณ 60 ล้านบาท คาดรายได้จากแอร์ เฟรด จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทในปีนี้ และอีก 5 ปีตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 500 ล้านบาท ภายในเดือนเม.ย.นี้ กระบวนการควบรวมเสร็จสิ้น
ล่าสุด SINO ร่วมกับพันธมิตรตั้งบริษัทในเวียดนาม ขยายธุรกิจ Sea Freight ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน เปิดให้บริการขนส่งเส้นทางเรือเวียดนาม – สหรัฐ รวมทั้งภูมิภาคอื่น ๆ คาดมีปริมาณขนส่งปีแรก 900 ตู้ เนื่องจาก เวียดนามมีปริมาณส่งออกเวียดนาม 2.2 แสนตู้/เดือน
นอกจากนี้บริษัท ฯ เดินหน้าขยายธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้า จากปัจจุบันมีคลังสินค้า 2 แห่ง ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง พื้นที่รวม 20,000 ตรม.
สำหรับ SINO เป็นผู้นำบริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจร มีธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1 บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่า 90% เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ที่มีปริมาณสินค้าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ในประเทศไทย
2) บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) 3) บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์
4) บริการให้เช่าคลังสินค้า อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจบริการให้เช่าคลังสินค้า อยู่ระหว่างการพิจารณาด้านทำเลที่ตั้งและความคุ้มค่าในการลงทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ จากปัจจุบันที่มีบริการให้เช่าคลังสินค้า 2 แห่ง ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง มีพื้นที่รวมประมาณ 20,000 ตารางเมตร
ณ สิ้นปี 2567 มีสัดส่วนรายได้มาจาก Sea Freight 96% Air Freight 1% และ Logistics Support 3% ของรายได้รวม
กลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถและขยายฐานลูกค้า เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพารายได้ในระยะยาวจากกลุ่มธุรกิจบริการ Sea Freight ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจบริการ Sea Freight ให้ครอบคลุม อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามากนัก เนื่องจากประเมินว่าสหรัฐฯ ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า
“ภาพรวมธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ แม้มีปัจจัยความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบกับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากจีนและประเทศในภูมิภาคอาเซียนไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่าแม้สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ ที่เกินดุลการค้า แต่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ไม่สามารถผลิตได้เอง และต้นทุนการผลิตสินค้าบางประเภทก็ยังคงสูงกว่าการนำเข้าภายใต้อัตราภาษีใหม่ ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ” นายนันท์มนัส กล่าว
นายกวิล กฤษเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SINO กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 3,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,810 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์ขยายธุรกิจ และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในมาเลเซียเมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแก่ลูกค้า รวมถึงค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ และบริการให้เช่าคลังสินค้า มีรายได้อยู่ในระดับที่ดี
ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่มีภาระดอกเบี้ย 0.56 เท่า และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 311 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมด้านเงินทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปลายปี 2566 พร้อมรองรับแผนงานขยายธุรกิจ