HoonSmart.com>>ธนาคารทหารไทย (TTB) หรือทีทีบี เปิดกลยุทธ์ปี 68 ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ เสนอโปรแกรมให้ทุกกลุ่มปลดหนี้ได้ไวขึ้น ยกสินเชื่อบุคคลการันตีปิดหนี้ได้ใน 3 ปี สร้างเสถียรภาพทางการเงินให้ไปต่ออย่างมั่นคง เสนอบริการให้มากกว่าด้วยดิจิทัลโซลูชันที่มีความหมาย มอบรางวัลให้กับลูกค้าชั้นดี ลดดอกเบี้ยให้กับการใช้ดิจิทัล เปลี่ยนเกณฑ์ลงทุนคุ้มครองเงินต้นผ่านกองทุน-ตราสาร เสนอเทคโนโลยีเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับลูกค้า SME

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า ทีทีบีประกาศแผนกลยุทธ์ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “The MEANINGFUL Change” ตอกย้ำปรัชญาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ผ่านโปรแกรมช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อ ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจให้สามารถปลดหนี้และฟื้นตัวได้ พร้อมเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเดินหน้ายกระดับดิจิทัลโซลูชันเพื่อให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก คุ้มค่าและเป็นมากกว่าการทำธุรกรรม
“ปี 2568 เป็นปีที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องสินเชื่อจะเติบโตเท่าไร แต่เป็นปีที่ลูกค้าที่มีปัญหาจะเดินได้ต่อไปอย่างไร ทีทีบีจะช่วยให้ลูกหนี้ทุกรายให้รอด สร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายอย่างแท้จริง เนื่องจากคนไทยเจอปัญหารายได้โตไม่ทันกับค่าใช้จ่าย คือมีรายได้โตปีละ 2% ขณะที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น 6% ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท หรือ 89% ของ GDP ธุรกิจ SME ถูกดิสรัป เข้าถึงแหล่งทุนได้ยากขึ้น และธุรกิจต้องปิดตัวลงมากขึ้น สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการมีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถกลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อีกครั้ง”นายปิติกล่าว
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี จากความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรง สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนเผชิญภาระทางการเงินหนักขึ้น ส่วนตลาดหุ้นที่เคยสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไทย ตอนนี้ก็ปรับตัวลงแรง เพราะบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ส่วนใหญ่ทำธุรกิจแบบเก่า แข่งขันไม่ได้ มีบจ.เพียงประมาณ 10% ที่ทำธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับเทค
ธนาคารตระหนักถึงปัญหาหนี้สินของคนไทยมาโดยตลอด และมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการช่วยแก้ปัญหาหนี้อย่างจริงจัง ผ่านมาตรการที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจัดการภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 2,240 ล้านบาท สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ที่ให้พนักงานเงินเดือนองค์กรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือแล้วกว่า 8,800 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Financial Literacy ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าร่วมวัดระดับหนี้กว่า 96,000 ครั้ง คอร์สให้ความรู้ทางการเงินออนไลน์และบริการให้คำปรึกษาโค้ชปลดหนี้ โดยทั้งหมดนี้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งล่าสุดกับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” นับว่าเป็นการให้ยาขนานแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาก่อน เพื่อช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าสามารถปลดหนี้ สร้างเสถียรภาพทางการเงิน ตั้งหลักใหม่ได้ แต่นักลงทุนบางกลุ่มก็ไม่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มรถยนต์
ทั้งนี้ ทีทีบีเชื่อว่าการช่วยลูกค้าต้องเริ่มจากความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละกลุ่ม และจะต้องโฟกัสให้มากขึ้น โดยสามารถแบ่งลูกหนี้ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ซึ่งมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน จึงออกแบบโปรแกรมช่วยเหลือที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ได้แก่
· กลุ่มแรก คือ ลูกหนี้ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเริ่มค้างชำระหรือสะสมหนี้จนไม่สามารถชำระได้ตามปกติ ทีทีบี ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ยกเว้นการเก็บดอกเบี้ย พร้อมกับลดค่างวดให้ตลอด 3 ปี เพื่อให้โอกาสลูกค้าที่ต้องการสู้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทีทีบีกว่า 21% จากลูกค้าเป้าหมายลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
· กลุ่มที่สอง คือ ลูกหนี้ที่ผ่อนชำระดี ซึ่งให้ความสำคัญกับเครดิตของตนเองและพยายามชำระหนี้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ แต่กลับเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือและถูกลืม ในปีนี้ทีทีบีจึงต้องการเข้าไปช่วยเหลือดูแลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “ผ่อนดี…มีรางวัล” ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าสินเชื่อกลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน เช่น หากลูกค้ามีประวัติผ่อนดีจะได้รับข้อเสนอรีไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า และยังได้รับรางวัลเป็นส่วนลดดอกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ และยังรวมถึงลูกค้าเอสเอ็มอี และผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง
· กลุ่มที่สาม คือ ลูกหนี้ที่อยากเข้าระบบ ได้แก่ ลูกค้าเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่อาจจะถูกกันออกจากระบบ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดต่าง ๆ และต้องการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน โดยทีทีบีพร้อมช่วยเหลือผ่าน โซลูชันทางการเงินสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการกลุ่มนี้เพื่อให้เกิด Financial Inclusion
· กลุ่มที่สี่ คือ ลูกหนี้พร้อมเท ซึ่งไม่อยากอยู่ในสังคมที่มีแต่เรียกร้อง แต่ไม่รู้จักหน้าที่ มีหนี้ก็ต้องชำระคืน
“ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน 60% กลับมาสู้ ส่วนอีก 40% ให้เอาบ้านไปเลย ลูกหนี้ SME กลับมาสู้ 50% สำหรับลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์มีเพียง 20% ที่กลับมาสู้ ส่วนที่เหลือ 80% ไม่สู้ แต่ไม่เอารถยนต์มาคืน ปัจจุบันสถานการณ์ยึดรถน้อยลง ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองกลับมาได้ ส่วนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” คาดว่าธปท.จะขยายโครงการ”
นายปิติกล่าวว่า ทีทีบีไม่ได้เป็นเพียงธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง พร้อมดูแลและช่วยเหลือให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง รวมถึงยังมุ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินและดิจิทัลโซลูชันที่สะดวกกว่า ประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าเพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้ายุคใหม่ที่เน้นการทำธุรกรรมด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์
ปัจจุบันจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 92% ของธุรกรรมวันนี้เกิดขึ้นบนช่องทางแอป ttb touch แล้ว ซึ่งลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เรียกว่า “ทำเอง ได้มากกว่า” เช่น
· สะดวกกว่า ลูกค้าสามารถประเมินวงเงินสินเชื่อได้ภายใน 2 นาที ผ่านฟีเจอร์ My Credit และสมัครสินเชื่อได้ทันทีบนแอป ttb touch นอกจากนี้ ยังสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน “ยินดี” Chatbot AI อัจฉริยะ บนแอป ttb touch ไม่ต้องเสียเวลารอสายกับ Contact Center
· ประหยัดกว่า ลูกค้าสามารถขอ E-statement สำหรับยื่นขอวีซ่าผ่านแอป ttb touch ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือเลือกใช้บัตร ttb all free digital ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ยังสามารถใช้ช้อปปิ้งออนไลน์และถอนเงินแบบไร้บัตรผ่านตู้ ATM
· คุ้มค่ากว่า รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกับบัญชีดิจิทัล ttb ME Save หรือ บัญชีดิจิทัลเพื่อธุรกิจที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ
· สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ทีทีบีจะเป็นธนาคารแรกที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน แต่รวมถึงลูกค้าที่ใช้บริการและทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมผ่าน Loyalty Program ตัวใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนเม.ย.นี้
ทางด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ทีทีบีมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความมีวินัยทางการเงินอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งที่มีประวัติผ่อนดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ หรือค้างชำระหนี้ ทีทีบีมองเห็นความสำคัญจึงวางแนวทางการให้ที่มากกว่าผ่านโปรแกรม “ผ่อนดี…มีรางวัล” สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนดีจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าที่มากกว่า ได้แก่
· สินเชื่อบ้าน 2 ล้านบาทขึ้นไป ลูกค้ารีไฟแนนซ์ ผ่อนดีดอกเบี้ยคงที่ตลอดสัญญา No Step Up Rate 3.39% ต่อปี* (*MRR-4.215% ต่อปี) ดอกเบี้ยปีที่ 4 ไม่มีกระโดด โดยไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี และหากผ่อนดีต่อเนื่อง มีดอกเบี้ยพิเศษ 5.45% ต่อปี* (*MRR-2.155% ต่อปี) เมื่อต้องการวงเงิน Top Up หรือเลือก Undo ค่าโปะได้ เมื่อต้องการเงินฉุกเฉิน ถอนเงินที่โปะมาใช้ได้ทันที ผ่านบัตรกดเงินสด พร้อมฟรีค่าประเมิน และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
· สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลูกค้าที่ผ่อนดี รีไฟแนนซ์มาที่ทีทีบี ลดดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง13% ต่อปี พร้อมรับเงินคืน 5% ของดอกเบี้ยปีแรก เมื่อผ่อนดีต่อเนื่องครบ 12 เดือน
· สินเชื่อบุคคล เมื่อรีไฟแนนซ์ผ่านบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ลดภาระดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 17% ต่อปี (จากปกติสูงสุด 25% ต่อปี) พร้อมส่วนลดดอกเบี้ยผ่อนดี สูงสุด 2% ทุกปี (เหลือต่ำสุด 13% ต่อปี) และหากผ่อนตามแผนที่แนะนำการันตีปิดหนี้ได้ใน 3 ปี
ซึ่งโปรแกรมผ่อนดี…มีรางวัลนี้จะเปิดให้เข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 31 สิงหาคม 2568โดยลูกค้าทีทีบีปัจจุบันที่เป็นกลุ่มผ่อนดีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นกัน โดยธนาคารจะมีแผนการสื่อสารรายละเอียดของโปรแกรมอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทีทีบียังส่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “ttb loyalty program” ครั้งแรกของวงการธนาคารไทยผ่านแอป ttb touch ที่มีการกำหนด Status Tier ให้กับลูกค้า ttb touch 5.5 ล้านราย ได้ร่วมสนุกกับการพิชิตภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่จะตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และด้านการเงิน และรับสิทธิสุดพิเศษเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมสนุกกันได้ทางแอป ttb touch
สำหรับการลงทุนผ่านกองทุนรวม และตราสารทางการเงินทีทีบีมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การลงทุน มีการคุ้มครองเงินต้นมากขึ้น ในส่วนกองทุนก็ได้รับความสนใจสูงขายได้ 1 แสนล้านบาท ส่วนตราสารใหม่ออก 2,000 ล้านบาท
ส่วนลูกค้ากลุ่มธุรกิจ นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำและผันผวน ต้นทุนที่สูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ปัญหาลามขึ้นไปหาบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทหลายแห่งถูกลดเรทติ้ง
อย่างไรก็ตามยังมีธุรกิจบางกลุ่มที่เติบโตได้ดี เช่น การแพทย์ อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีก ขนส่ง หากได้รับการสนับสนุนที่ดีก็จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้มากขึ้น ทีทีบีพร้อมช่วยให้ลูกค้าเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดกลางก้าวผ่านความท้าทายนี้และเติบโตได้มากกว่า ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและสนับสนุนเครื่องมือการเงินที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุน แต่ช่วยแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทีทีบียังพัฒนาซัพพลายเชนโซลูชันที่ช่วยเอสเอ็มอีเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ รวมทั้งช่วยติดอาวุธให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนทางธุรกิจได้เหมือนธุรกิจรายใหญ่ ผ่านโซลูชันสำหรับร้านค้าอย่าง ttb smart shop ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือรับเงินเพราะจะมาพร้อมกับรายงานเชิงลึกที่ช่วยต่อยอดและวางแผนการขายในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นยังเสริมศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเอสเอ็มอี ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มการเงินครบวงจรอย่าง ttb business one ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ประกอบการสามารถสมัครและเปิดบัญชีได้ด้วยตนเอง โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีการเปิดตัวบัญชีดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ออกแบบเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ พร้อมกันนั้นยังให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ก้าวผ่านสู่มาตรฐานการทำธุรกิจใหม่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่าน Green Transition Solution โดยปีนี้โฟกัสธุรกิจโรงแรม และ ปันบุญ โดย ทีทีบี
นายปิติ กล่าวสรุปว่า การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าเป็น ‘พันธกิจ’ที่ทีทีบียึดมั่นมาโดยตลอด ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับชีวิตลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งจะมีความหมายก็ต่อเมื่อสามารถตอบโจทย์และช่วยแก้ไขปัญหาลูกค้าที่กำลังเผชิญ และเชื่อว่าสิ่งที่ตั้งใจทำในปีนี้จะเป็นการสร้าง MEANINGFUL Change ให้กับลูกค้าและพร้อมเคียงข้างคนไทย จนทำให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ผ่านโซลูชัน รางวัล และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ทีทีบีตั้งใจส่งมอบให้ตลอดทั้งปี ส่วนปัญหาบางเรื่อง การลดอัตราดอกเบี้ย ไม่สามารถแก้ไขได้ยก มาตรการผ่อนคลาย LTV ไม่คิดว่าจะช่วยอสังหาริมทรัพย์ได้ เพราะช่วยได้น้อยมาก ปัญหาของผู้ซื้อบ้าน ไม่มีเงินผ่อน การกู้เพิ่มจะตายหนักมากขึ้น ปัญหามีหนี้มากกว่ารายได้เป็นโจทย์ระดับชาติ ไม่ใช่ของธนาคารพาณิชย์