HoonSmart.com>>ไทยประกันชีวิต เผยปี’67 กำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท โต 20.4% ผลจากกำไรลงทุนพุ่ง 119.7% และกำไรจากการรับประกันภัยที่แข็งแกร่ง แม้ภาระค่าสินไหมค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มสูงขึ้น
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต (TLI) เปิดเผยว่า ปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 11,682 ล้านบาท หรือเติบโต 20.4% จากปีก่อนหน้า โดยกำไรจากการรับประกันภัยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2566 แม้ว่าภาพรวมสินไหมค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความคุ้มครอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างความยั่งยืนของกำไรจากการรับประกันภัย
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีกำไรจากการลงทุนเติบโตขึ้นถึง 119.7% เป็นผลจากสภาวะตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และการปรับพอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ ให้สอดคล้องกลยุทธ์และมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สินทรัพย์ลงทุนของบริษัทฯ มากกว่า 80% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด เป็นสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้
ขณะที่มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business : VONB) ในปี 2567 อยู่ที่ 7,336 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) มีอัตรา 60.8% โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 87,854 ล้านบาท
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) เพิ่มขึ้น 12.6% จากปีก่อน เป็น 180,773 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 619.4% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้อยู่ที่ 140% สะท้อนสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลกำไรในปี 2567 ในอัตรา 0.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งเงินปันผลจะจ่ายหลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และสำนักงาน คปภ. เรียบร้อยแล้ว
นายไชย กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ (Seamless Experience) และมอบบริการที่มากกว่าให้กับลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนานวัตกรรมต่างๆ
อาทิ ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถเข้าถึงกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) และบริการสลักหลังแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Endorsement) พร้อมระบบชำระเบี้ยออนไลน์และฟีเจอร์สุขภาพ Vital Scan ที่ช่วยประเมินสุขภาพผ่านการสแกนใบหน้า
อีกทั้งยังเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Live Bright” ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ใช้ Generative AI ช่วยวางแผนชีวิตส่วนบุคคล เสริมสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้ลูกค้าลงมือทำสิ่งที่ต้องการ
“วิสัยทัศน์ของไทยประกันชีวิต คือการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนที่ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย
บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนระหว่างธุรกิจและสังคม ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยกำหนดแผนแม่บทการพัฒนาสู่ความยั่งยืนและ Roadmap การดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม ซึ่งได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จ เห็นได้จากรางวัลต่างๆ ที่ได้รับ อาทิ รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับ 1 ปี 2567 จาก คปภ.
Best Corporate Life Insurance Company – Thailand 2024 จาก The Global Economics Awards
Most Innovative ESG Insurance Provider 2024 จาก International Finance Awards
Asia Responsible Enterprise Awards 2024 (AREA) สาขา Corporate Sustainability Reporting
จากสถาบัน Enterprise Asia ประเทศสิงคโปร์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2024 ในระดับ “A” โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย