HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 29.32 จุด ยืนเหนือ 1,200 จุด รีบาวด์ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชีย รับแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเจรจากับประเทศที่โดนเก็บภาษีสินค้านำเข้า และคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน ส่งหุ้นบิ๊กแคปขึ้นนำตลาด โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนปรับขึ้นได้ดี นำโดยกลุ่มปิโตรเคมี นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,395.35 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 2,367.88 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ แนวรับ 1,190-1,200 แนวต้าน 1,220 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 5 ก.พ.68 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,206.96 จุด เพิ่มขึ้น 29.32 จุด หรือ +2.49% มูลค่าซื้อขาย 50,706.03 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,208.76 จุด ต่ำสุด 1,183.21 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,379.46 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 406.93 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 2,367.88 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,395.35 ล้านบาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้รีบาวด์ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยตลาดเอเชียส่วนใหญ่ ได้แรงหนุนจากข่าวรมว.พาณิชย์สหรัฐเปิดช่องให้มีการเจรจาต่อรองกับประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า และคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจของจีนหลังตัวเลข PMI ของจีนดีกว่าคาด รวมถึงการตั้งเป้า GDP ปี 2568 โต 5% และการตั้งเป้าหมายขาดดุลงบประมาณที่ 4% ของ GDP ทำให้หุ้นตลาดฮ่องกง-จีนรีบาวด์ขึ้น โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจต่างปรับขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้น และหุ้น Global ก็ขึ้นนำตลาด
พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และให้ติดตามนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อไป รวมถึงดูการตอบโต้ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.)ตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,190-1,200 จุด แนวต้าน 1,220 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +5.03% มูลค่าซื้อขาย 2,788.22 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 272.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +1.49% มูลค่าซื้อขาย 2,420.29 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท หรือ +7.47% มูลค่าซื้อขาย 1,895.84 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 52.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,875.66 ล้านบาท
TOP ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 บาท หรือ +10.62% มูลค่าซื้อขาย 1,609.99 ล้านบาท
