“ASW” ตั้งเป้ารายได้ปี’67 โต 20% พร้อมโอน 9,557 ล้านบาท

HoonSmart.com>>แอสเซทไวส์ ตั้งเป้ารายได้ปี’67 เพิ่ม 20% รวม 8,700 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “THE NEW FRONTIERS” เปิด 12 โครงการใหม่ ขยายทำเล EEC และภูเก็ต มูลค่ารวม 25,920 ล้านบาท พร้อมโอนกว่า 9,557 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า ปี2567 ตั้งเป้ารายได้ 8,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ 7,200 ล้านบาท โดยปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริม และกระตุ้นกำลังซื้อในปีนี้ มีหลายปัจจัย เช่น การต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอน – จดจำนอง ออกไปอีก 1 ปี

รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจรวมถึงภาค อสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับ กลยุทธ์ปีนี้เน้น 3 ด้านหลัก “Execute / Expand / Explore” มุ่งนำธุรกิจเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ด้วยแนวคิด “THE NEW FRONTIERS” โดยจะเปิด 12 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ และ แนวราบ 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 25,920 ล้านบาท โดยจะใช้เงินทุนหมุนเวียนภายในของบริษัท และตั้งเป้ายอดขาย 17,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%

“ปี 2567 เรามีโครงการที่สร้างเสร็จใหม่พร้อมโอน 9 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9,557 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ส่วน Backlog ปัจจุบันมี 19,500 ล้านบาท อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล 13,700 ล้านบาท ใน EEC 1,800 ล้านบาท และภูเก็ตอีกกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 ต่อเนื่องไปถึงปี 2569″นายกรมเชษฐ์ กล่าว

นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทฯจะทำการขยายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ให้ครอบคลุมกรุงเทพฯ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้ง ศรีราชา บางแสน ระยอง และที่ภูเก็ต

สำหรับ กรุงเทพฯและ EEC มี 6 โครงการ มูลค่า 10,820 ล้านบาท เน้นทำเลศักยภาพเดินทางสะดวก ใกล้สถาบันการศึกษา ใกล้แหล่งงาน รวมถึงเปิดตัวบูทีคคอนโดแบรนด์ใหม่ Maroon รัชดา 32 และ Aquarous บนทำเลจอมเทียน-พัทยา อีกหนึ่งหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ

ส่วนที่ ภูเก็ต ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท โครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และ โครงการเดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 2566 ที่ล่าสุดได้เปิดขายโครงการ เดอะไทเทิล เลเจนดารี บางเทา มียอดขายรวมแล้วกว่า 80%

รวมถึง ได้ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BOTANICA Grand Avenue) ลักชัวรี่พูลวิลล่าที่เป็นเมกะโปรเจ็คต์ มูลค่าสูงถึง 13,000 ล้านบาท ในสัดส่วน 30% ทำให้พอร์ตอสังหาฯ ในภูเก็ตของแอสเซทไวส์มีความครบเครื่องมากยิ่งขึ้น มีโปรดักต์ครอบคลุมทั้ง Leisure คอนโดมิเนียม และวิลล่าระดับลักชัวรี

นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเสริมความแข็งแกร่งด้วยธุรกิจใหม่เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในด้านการทำธุรกิจอสังหาฯ ที่ยาวนานกว่า 19 ปี ภายใต้การบริหารงานของ “บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด” ในเครือแอสเซทไวส์ รวมถึง ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม และเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแอสเซทไวส์อีกด้วย

นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วยการปรับโครงสร้างภายใน โดยแต่งตั้งผู้บริหารของแต่ละกลุ่มธุรกิจเป็นแม่ทัพในการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะสามารถพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีความเข้าใจความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงาน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไป

สำหรับปี 2566 ถือเป็นปีที่ดีของแอสเซทไวส์ โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านระดับลักชัวรี เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ บนทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ที่ถือเป็นหนึ่งในทำเล World Class Destination ซึ่งเป็นทำเลยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มองหาที่พักอาศัยในประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้เดิม 12 โครงการ และสามารถทำยอดขายปี 2566 ได้ถึง 16,486 ล้านบาท สูงทะลุเป้าที่วางไว้ ซึ่งเติบโตกว่า 16% เมื่อเทียบกับปี 2565