TRITN ฉลุย !! ควบ “บ้านไร่เตชะอุบล” เดินหน้าโครงการระดับโลก The Haven

HoonSmart.com >> ฉลุย !!! ผู้ถือหุ้น “TRITN” ไฟเขียว ควบรวมที่ดินบ้านไร่เตชะอุบล มูลค่า 1.4 พันล้านบาท เดินหน้าโครงการระดับโลก The Haven ตั้งเป้าปี 2571 เปิดดำเนินการ 

สดาวุธ เตชะอุบล

การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) ครั้งที่ 2/2567 วันที่ 3 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติการควบรวมที่ดินบ้านไร่ ซึ่งถือครองโดยบริษัท บ้านไร่เตชะอุบลโฮลดิ้ง จำกัด เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท

ทั้งนี้ “บ้านไร่เตชะอุบล” มีที่ดินทำเลทอง ประมาณ 800 ไร่ ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี บนทางหลวงสาย 331 ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 1.5 ชั่วโมง และจากพัทยาเพียง 1 ชั่วโมง ที่ดินมีหน้ากว้างติดถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร และตั้งอยู่ใกล้สถานีแรกของโครงการรถไฟความเร็วสูง กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2572 โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีมักกะสันถึงสถานีนี้เพียง 20 นาที นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สวนอุตสาหกรรม และดิจิทัลพาร์ค

การประเมินมูลค่าที่ดินโดยบริษัทที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต. พบว่ามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.9 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม TRITN ได้ดำเนินการควบรวมที่ดินเข้ามาในมูลค่าเพียง 1.4 พันล้านบาท ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลประโยชน์จากส่วนลดมูลค่าที่ดินสูงถึง 500 ล้านบาท นอกจากนี้ การควบรวมครั้งนี้ยังส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจาก 2.28 เท่า เหลือเพียง 0.71 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เอื้อต่อการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน

หลุยส์ เตชะอุบล

น.ส. หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัท ฯ เตรียมดำเนินโครงการ The Haven ซึ่งเป็นโครงการเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการระดับโลก มีแผนเปิดดำเนินการปี 2571 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2-3 ปี โครงการนี้ออกแบบโดย Mandai Group ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Temasek และเป็นผู้ออกแบบสวนสัตว์สิงคโปร์, Rainforest, Wildlife Park และ River Safari โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากคุณสดาวุธ เตชะอุบล ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 40 ปี และจะเข้าร่วมเป็นกรรมการบริษัท TRITN เพื่อผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จ

กำหนดงบลงทุน The Haven ระยะแรก  890 ล้านบาท มีการรายงานการใช้เงินทุนอย่างโปร่งใสในทุกไตรมาส การควบรวมที่ดินครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของบริษัท แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับ TRITN และบริษัทย่อย

“การอนุมัติของผู้ถือหุ้นในวันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ TRITN จากการเป็นบริษัทก่อสร้างไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว โดยอาศัยพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งจากธุรกิจก่อสร้างที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว”

น.ส.หลุยส์ กล่าวถึงธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ TRITN   เน้นเฉพาะโครงการ EPC ขนาดใหญ่ ที่มีความมั่นคงและมีใบอนุญาตครบถ้วน ปัจจุบันมีโครงการหลัก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการขนส่งน้ำมันทางท่อ เฟส 3 จาก BAFS และโครงการวางท่อน้ำประปาจากการประปานครหลวง (MWA) บริษัทได้ยุติโครงการก่อสร้างที่ไม่ใช่สัญญาหลักทั้งหมด รวมถึงการยุติโครงการก่อสร้าง CSO Sino Thai ที่มีมูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท เนื่องจากขาดใบอนุญาตที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน”

นอกจากการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มก่อสร้างแล้ว TRITN ยังเดินหน้าสู่การเติบโตในธุรกิจผู้บริโภค ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการควบรวมแบรนด์ Madame Louise  (มาดาม หลุยส์) ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่กำลังเติบโต เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท โกลบอลคอนซูเมอร์   (GLOCON) ซึ่ง TRITN เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แบรนด์นี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2565 โดยมีรายได้แตะ 120 ล้านบาทในปี 2567 และตั้งเป้ารายได้กว่า 300 ล้านบาทในปี 2568 ด้วยอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 25% การควบรวมครั้งนี้ถือเป็นการเสริมศักยภาพให้กับ GLOCON และช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายที่มีอยู่