ดาวโจนส์ปิดร่วง 274 จุด ประธานเฟดชี้ไม่รีบลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดาวโจนส์ลดลง 274 จุด หลังประธานเฟดระบุจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ มีแนวโน้มจะดำเนินการช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ปรับเพิ่มขึ้น 50 เซนต์ “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ 38,380.12 จุด ลดลง 274.30 จุด หรือ -0.71% หลังจากประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า เฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลดอัตราดอก เบี้ยในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะดำเนินการช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,942.81 จุด ลดลง 15.80 จุด, -0.32%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,597.68 จุด ลดลง 31.28 จุด, -0.20%

นายพาวเวลล์ให้สัมภาษณ์รายการ 60 นาทีของ CBS ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ในสหรัฐอเมริกา หลังมีการบันทึกเทปไว้ก่อนที่ข้อมูลการจ้างงานจะเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวว่า อันตรายจากการดำเนินการเร็วเกินไปคืองานในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ

นักลงทุนให้น้ำหนักน้อยลงที่ 16.5% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นมาที่ 4.166% จาก 3.81% ในสัปดาห์ก่อน นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งชุดใหม่ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจคงอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้

สถาบันจัดการด้านอุปทานรายงาน ดัชนีภาคบริการเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นมาที่ 53.4 จาก 50.5 ในเดือนธันวาคม และสูงกว่า 52.0 ที่นักวิเคราะห์คาด ภาคบริการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13

นักลงทุนจับตาการรายงานผลการดำเนินงานรายไตรมาสในสัปดาห์นี้หลัง ซึ่งผลการดำเนินงานของแม็คโดนัลด์ที่ไม่สดใส มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

หุ้นแมคโดนัลด์ ลดลง 3.7% หลังรายงานรายได้ในไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้นักลงทุนกังวลต่อผลประกอบการของบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในภาคอุสาหกรรมเทคโนโลยี

หุ้นโบอิ้ง ลดลง 1.3% หลังเปิดเผยบริษัทต้องแก้งานเพิ่มเติมกับเครื่องบินรุ่น 737 MAX ประมาณ 50 ลำที่ยังไม่ได้ส่งมอบ

หุ้นเทสลาลดลง 3.7% จากความกังวลสงครามราคารถEV

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ขณะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วทั้งภูมิภาคพุ่งสูงขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางประเทศหลักนั้นลดลง และกลบผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากรายงานของบริษัทจดทะเบียนบางส่วน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน ซึ่งถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานของภูมิภาค ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอยู่ที่ 2.318% ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ดับความหวังว่าสหรัฐฯจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งจะเป็นการตั้งต้นให้กับธนาคารกลางอื่นๆ

นอกจากนี้ตลาดยังกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังดัชนี PMI รวมของ HCOB ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนแสดงสัญญาณเบื้องต้นถึงการฟื้นตัวในเดือนกราคม.

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ลดลง 1.7% จากราคาโลหะส่วนใหญ่ลดลงหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และหุ้นกลุ่มค้าปลีก ลดลง 2.2%

หุ้นธนาคาร Santander ของสเปนและธนาคาร Lloyds ของอังกฤษ ลดลง 5.0% และ 1.0% ตามลำดับ หลังไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า อิหร่านใช้บัญชีจากสองธนาคารนี้โยกย้ายเงินทั่วโลกเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่483.69 จุด ลดลง 0.24 จุด, -0.05%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,612.86 จุด ลดลง 2.68 จุด, -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,589.96 จุด ลดลง 2.30 จุด, -0.03%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,904.06 จุด ลดลง 14.15 จุด, -0.08%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 72.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 78.22ดอลลาร์ต่อบาร์เรล