HoonSmart.com>>ส.อ.ท.เผยม.ค.68 ยอดผลิตรถยนต์ลดลง 24% ส่งออกต่ำสุดรอบ 33 เดือน ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้าโตต่อเนื่อง
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในเดือนม.ค. 2568 พบว่า ตัวเลขการผลิต การขายในประเทศ และการส่งออกปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
การผลิตลดลงกว่า 24%
เดือนม.ค. 2568 ไทยผลิตรถยนต์ได้ 107,103 คัน ลดลง 24.63% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 32,059 คัน (ลดลง 31.78%) และเพื่อส่งออก 75,044 คัน (ลดลง 21.10%)
รถยนต์นั่งผลิตได้ 35,714 คัน ลดลง 31.98% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ลดลงถึง 51.09% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) เพิ่มขึ้น 155.37% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เติบโตถึง 439.90%
ส่วนรถกระบะ 1 ตัน ผลิตได้ 70,604 คัน ลดลง 18.65% และรถบรรทุกผลิตได้เพียง 785 คัน ลดลงมากถึง 71.91%
ยอดขายในประเทศลดลง 12.26% จากสินเชื่อเข้มงวด
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 48,092 คัน ลดลง 12.26% จากปัจจัยหลักคือมาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ขยายตัวเพียง 2.5%
ยอดขายรถยนต์นั่งและรถตรวจการณ์ 30,610 คัน (ลดลง 10.92%) ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า BEV ขายได้ 7,022 คัน ลดลง 28.08% อย่างไรก็ตาม รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 884.69%
สำหรับรถกระบะมียอดขาย 12,261 คัน (ลดลง 17.51%) และรถจักรยานยนต์ขายได้ 156,350 คัน เพิ่มขึ้น 1.52%
ส่งออกลดลง 28.13% ต่ำสุดรอบ 33 เดือน
ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 62,321 คัน ลดลง 28.13% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือน สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า การแข่งขันจากรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ราคาถูกลง และการเปลี่ยนรุ่นของรถยนต์บางโมเดล
โดยรถกระบะยังคงเป็นสินค้าหลักของการส่งออก คิดเป็น 61.76% ของยอดรวม แต่ลดลง 25.40% ส่วนรถยนต์นั่งลดลง 33.80% และรถยนต์ไฮบริด (HEV) ลดลงถึง 49.99%
มูลค่าการส่งออกรถยนต์รวมอยู่ที่ 41,445.30 ล้านบาท ลดลง 31.57% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวม (รวมชิ้นส่วนและอะไหล่) อยู่ที่ 68,069.18 ล้านบาท ลดลง 20.63%
รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง แม้ยอดขายลดลง
แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV เดือนมกราคม 2568 ลดลง 28.08% แต่การผลิตยังขยายตัวถึง 155.37% ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสม BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 มีจำนวน 242,076 คัน เพิ่มขึ้นถึง 63.85% เมื่อเทียบกับปีก่อน