“เมืองไทย”เปิดดีลลงทุนสถานพยาบาล เพิ่มกรีนบอนด์-รีท ดันยีลด์ปีนี้ 3.5-4%

HoonSmart.com>>เมืองไทยประกันชีวิต เตรียมลงทุนในคลินิกเฉพาะทาง-สถานดูแลผู้สูงอายุ หลังคปภ.ไฟเขียว รับสังคมสูงวัย ยันสินทรัพย์ผลตอบแทนคงที่ยังยืนที่ 80%  เพิ่มความระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นคาดปีนี้ยีลด์ 3.5-4%

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต หรือ MTL เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เปิดให้บริษัทประกันชีวิตลงทุนในโรงพยาบาลได้ ซึ่งบริษัทก็เตรียมที่จะลงทุนในสถานพยาบาล เพื่อสร้างความสามารถด้านการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงที่เกิดจากลูกค้าเข้าสู่วัยสูงอายุ

รวมถึง เพิ่มการลงทุนใน green bond ที่ได้เรทติ้ง Investment Grade ของบริษัทขนาดใหญ่ที่กำลังเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ธุรกิจสีเขียว

นายธนัญชัย สัจจะปรเมษฐ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงิน บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในคลินิกเฉพาะทางและสถานดูแลผู้สูงอายุ (Nursing Home) ที่ดูแลผู้ป่วย และเป็นที่พักด้วย โดยจะเป็นการร่วมลงทุน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายกลางปีนี้

ปัจจุบัน บริษัทมีเงินลงทุน 6.3 แสนล้านบาท เป็นพอร์ตลงทุน 600,000 ล้านบาท โดย 80% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ เรตติ้ง A+ มีการลงทุนในหุ้นป้จจัยพื้นฐานดี สัดส่วน 13-15% ที่เหลือเป็นการลงทุนอื่น ปีที่ผ่านมามีผลตอบแทนจากการลงทุนสุทธิ 3.5-4%

“ใน 13-15% นี้เราลงทุนหุ้นต่างประเทศ 40% หุ้นไทย 40% อีก 20% โดยหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมาจากหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา”นายธนัญชัย

นายธนัญชัย กล่าวว่า เงินที่ได้จากเบี้ยใหม่ที่ตั้งเป้าเติบโต 20% หลักๆ ยังคงเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ ที่สอดคล้องกับแบบประกัน และอาจเพิ่มการลงทุนในกรีนบอนด์และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (ESG Bond) จากปัจจุบันลงทุนไปแล้วประมาณ 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในปี 2567 ยากต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่หุ้นกู้แมีความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระ และธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดยังคงดอกเบี้ยสูงไปถึงกลางปี จะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของไทยคาดว่าจะยังอยู่ที่ 2.5% อาจมีการปรับลงตามหลังเฟด

ฉะนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นต้องดูจังหวะเวลาดีๆ ให้ความสำคัญกับ timing ในการลงทุนมากขึ้น โดยช่วงเดือนแรกมีการปรับพอร์ตหุ้นบ้าง โดยการถอดหุ้นบางตัวออก และลงทุนในหุ้นตัวใหม่ที่มีความยั่งยืนและปันผลสูง ซึ่งเปิดเผยไม่ได้ และปีนี้จะเพิ่มการลงทุนในกองรีทที่ผลตอบแทนจะดีขึ้นหลังอัตราดอกเบี้ยลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าาลตอบแทนที่ได้ในปี 2567 จะเท่าๆกับปีที่ผ่านมาคือประมาณ 3.5-4% เพราะผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) มีการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัว หรือ side way แม้ผลตอบแทนจะไม่สูงเท่าปี 2566 แต่ก็ไม่ต่ำมากเมื่อเทียบ 3-4 ปีที่ผ่านมา จะส่งผลดีกับการลงทุนของบริษัทประกันชีวิตที่มีการลงทุนระยะยาว