GUNKUL กำไร1.66 พันลบ.พุ่ง13% มั่นใจปีนี้ธุรกิจสดใส โตกว่า 15%  

HoonSmart.com>>”กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” (GUNKUL)สุดยอด ปี67 โกยกำไรดำเนินงาน 1,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.62% จากรายได้  9,731 ล้านบาท โต 26% รับอานิสงส์ธุรกิจงานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า รับเหมาฯและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) พลังงานทดแทนที่สดใส ฟากซีอีโอ “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ลุยพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโตมีศักยภาพ  มั่นใจอนาคตธุรกิจรุ่งเรืองตามแผน PDP เป้าปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรการดำเนินงานตามปกติของกิจการจำนวน 1,661.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.62% จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,474.89 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 9,731.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,033.67 ล้านบาท คิดเป็น  26.42% จากจำนวน 7,697.57 ล้านบาท

กำไรที่เติบโตมาจากไตรมาส 4/2567 เทียบกับไตรมาส4/2566 เติบโตค่อนข้างมากเกือบ 4 เท่า  หรือสูงถึง 395%  จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้นทั้งการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า เช่น SF6 Gas Switch, Surge Arrester และอุปกรณ์อื่น ๆ  อีกทั้งมีรายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับรับโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานทดแทนทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มและโครงการพลังงานลม  ซึ่งช่วงปลายปี บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ (MW)  ทั้งโครงการพลังงานลมและโครงการโซลาร์ฟาร์ม คาดว่าจะได้เมกะวัตต์ส่วนนี้เข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ตถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ที่จะสามารถขยายธุรกิจของพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้านงานก่อสร้างบริษัทฯ ยังมีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่มเติมทั้งในส่วนของงานสายส่งและสถานีในส่วนของโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ตามแผน PDP ใหม่ อีกทั้งภาคเอกชนมีการสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะมีรายได้พลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามา  ขณะที่ Trading และ Manufacturing บริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในระบบ 115  Kv  รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยทำเพื่อรองรับการเติบโตในระบบส่งและระบบจำหน่ายต่อไปในอนาคต

สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 เชื่อว่า ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงานของภาครัฐที่มีงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมตามความต้องการใช้ไฟฟ้า   ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า  15 %   หลักๆ มาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า

ขณะที่เป้าหมายการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการพัฒนาโครงการพลังงานทั้งโครงการลม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 832 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศที่จะเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีส่วนของในงานมือ (Backlog) งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท  โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้งานในมือเพิ่มมากขึ้น

“บริษัทฯ คาดว่าจะมีการใช้เงินลงทุนในส่วนทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในทุกด้าน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง”นางสาวโศภชากล่าว