ดาวโจนส์ปิดบวก 134 จุด จ้างงานนอกภาคเกษตรสูงเกินคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 134 จุด ดัชนีS&P 500 ทำสิถิติสูงสุดใหม่ รับผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาด “ราคาน้ำมันดิบ WTI ” ลดลง 1.54 ดอลลาร์ “ตลาดหุ้นยุโรป” ปืดบวกเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 2 กุมภาพันธ์  2567 ที่  38,654.42 จุด เพิ่มขึ้น 134.58  จุด หรือ +0.4% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทำสิถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากทั้งผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาด 
      
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,958.61 จุด เพิ่มขึ้น 52.42 จุด, +1.07%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,628.95 จุด เพิ่มขึ้น 267.31   จุด, +1.74%
      
ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวดจนส์เพิ่มขึ้น 1.4% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.4%และ ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สี่แล้วที่ดัชนีหลักปรับขึ้นติดต่อกัน
      
หุ้นเมตา พุ่งกว่า  20% หลังรายงานผลกำไรดีกว่าคาด และประกาศจ่ายปันผลรายไตรมาสเป็นครั้งแรก  และประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน 50 พันล้านดอลลาร์ หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 7.9% จากผลกำไรไตรมาสสี่ดีกว่าคาด
      
การปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีช่วยหันความสนใจของนักลงทุนจากรายงานการจ้างงานที่ร้อนแรง าซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 4.02% หลังกระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 353,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ซึ่งสูงกว่า 185,000 ตำแหน่ง จากผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ Dow Jones จาก ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่า 3.8% ที่นักวิเคราะห์คาด
      
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้ปรับตัวเลขการจ้างงานเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเป็น 333,000 ตำแหน่ง จากเดิม 216,000 ตำแหน่ง
      
ส่วนค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 4.1% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด  ทั้งนี้ค่าจ้างรายชั่วโมงเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
      
นักลงทุนให้ความสนใจกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ที่จะมีผลต่อผลประกอบการ แต่ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป
      
อเล็กซ์ แม็คแกรธ  จาก NorthEnd Private Wealth กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมไม่น่าจะมีแล้ว แต่อาจจะมีการปรับในเดือนพฤษภาคม
      
ซีมา ชาห์  จาก Principal Asset Management กล่าวว่า การจ้างงานและค่าจ้างที่ขยายตัว หมายความว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม  และตอนนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมก็อาจจะเลื่อนออกไป
      
นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอีกโดยที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ที่ระดับปัจจุบัน แต่ชี้ว่ายังเร็วเกินไปที่เจ้าหน้าที่ของเฟดจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
      
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมกราคมปรับตัวขึ้นมาที่ 79.0 สูงกว่า 78.8 ที่นักวิเคราะห์คาด
      
      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย การปรับขึ้นจากการรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดช่วยชดเชยความคาดหวังการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ถูกบั่นทอนจากการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาด
      
หุ้นDanske Bank ธนาคารในเดนมาร์ก ปรับขึ้นมากที่สุดโดยเพิ่มขึ้น 8.1% หลัง หลังรายงานผลกำไรไตรมาสสี่  และประกาศโครงการซื้อหุ้น
      
หุ้น Vallourec ผู้ผลิตท่อเหล็กของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 3.1% หลังาดว่าผลประกอบการในปี 2023 จะสูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้า
      
หุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์เพิ่มขึ้น 2.0% หลังจากรายงานกระแสเงินสดอิสระประจำปีเบื้องต้น สำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
      
หุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 0.3% ตามการเพิ่มขึ้นของหุ้นเมตา แลพตฟอร์มส และหุ้นแอมะซอนในสหรัฐ หลังจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าคาด
      
ผลกำไรที่สดใสจำนวนมากในยุโรป ส่งผลให้ดัชนีSTOXX 600 ปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สอง แม้ว่าข้อมูล LSEG ล่าสุดยังคงประมาณการกำไรของบริษัทในดัชนีSTOXX 600  ลดลง 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
      
หุ้นน้ำมันและก๊าซลดลง 1.4% จากการลดลง 1.5% ของหุ้น BP หลังบริษัทฯปิดโรงกลั่นในสหรัฐ
     
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 483.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด, +0.01%
 ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,615.54 จุด ลดลง 6.62 จุด,-0.09%
 ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,592.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.51 จุด, +0.05%
 ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,918.21 จุด เพิ่มขึ้น 59.17 จุด, +0.35%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 72.28   ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 77.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล