ADVANC ลุ้นคืบหน้า GSA และไลเซ่นส์ Virtual Bank ในไตรมาส 2/68

HoonSmart.com>>”แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส”(ADVANC) ลุ้นคืบหน้า GSA และไลเซ่นส์ Virtual Bank ในไตรมาส 2/67 ปัจจุบันยังโฟกัสใช้งาน 5G ปี 68 วางเป้าหมายผู้ใช้ 15 ล้านราย จากตอนนี้มี 12 ล้านราย ส่วนธุรกิจ Digital Enterprise มีแผนโตมากกว่า 50% ใน 3-5 ปี ส่วนเป้ารายได้ปี 68 และ EBITDA เติบโต 3-5% ตั้งงบลงทุน 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ในปี 68 ไว้ที่ 2.5 เท่า จากปัจจุบันมี 2.2 เท่า

น.ส.สมฤทัย ตัณฑกิตติ หัวหน้าแผนกงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทจะโฟกัสการใช้งาน 5G เป็นหลัก ซึ่งครอบคลุม 95% ของประชาชน วางเป้าหมายผู้ใช้ในปี 2568 ที่ 15 ล้านราย จากปัจุบันที่มี 12 ล้านราย ซึ่งโครงข่ายไม่ได้ตั้งเป้าหมายครอบคลุม แต่จะเพิ่ม Capacity ในส่วนที่ความต้องการใช้ข้อมูลสูง เป็นการอุดรู และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากกว่า

สำหรับส่วนธุรกิจ Digital Enterprise มีแผนที่จะเติบโตมากกว่า 50% ใน 3-5 ปี เป็นแผนระยะยาวของบริษัทที่มองว่า Data Center Digital Enterprise เป็นจุดหนึ่งของการเติบโตของบริษัท

การที่มี GULF มาเป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัท ข้อดีคือการได้อยู่ใน GSA เพื่อเป็นการขยายธุรกิจ รองรับ Hyperscale Cloud ในอนาคต คือการแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจ Data Center ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“ไตรมาส 2 จะมีเรื่องตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการประมูล GSA จะเสร็จแล้ว และ Virtual Bank คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกไลเซ่นต์ให้ในไตรมาส 2″น.ส.สมฤทัย กล่าว

นายนภสินธุ์ สานติวัตร เจ้าหน้าที่ชำนาญการนักลงทุนสัมพันธ์ ADVANC กล่าววา ในปี 2568 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 3-5% ในทุกธุรกิจทั้งธุรกิจโมบาย, บรอดแบนด์ และ Enterprise เช่นเดียวกับเป้าหมายของ EBITDA ที่จะเติบโต 3-5% พร้อมเตรียมงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ 26,000–27,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ Digital Infrastructure ของประเทศไทยไปอีกขั้น ทั้งโครงข่ายมือถือและเน็ตบ้าน ยกระดับการใช้ชีวิตคนไทยให้มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียมกัน

พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ในปี 2568 ไว้ที่ 2.5 เท่า จากปัจจุบันที่มี 2.2 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทยังรักษาทั้งการออกบอนด์ใหม่ หรือการก่อหนี้ใหม่ ซึ่งจะต้องได้อัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล และสร้างการเติบโตให้กับทุกกลุ่มได้ สุดท้ายจะนำไปสู่การให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น โดยในปี 2567 บริษัทจ่ายปันผล 23% ซึ่ง Payout Ratio เป็น 90% และเป็นการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 25 ปี เป็นจุดที่สร้างความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ในช่วงรยะเวลาที่ผ่านมา