HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 188 จุด ด้านดัชนี S&P 500 และNasdaq ฟื้นตัวจากร่วงลงวันก่อน Nvidia รายงานผลดำเนินงานเชิงบวก จับตาดชนี PCE ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปิดร่วง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกทำนิวไฮ ผลประกอบการแข็งแกร่งหนุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 26กุมภาพันธ์ 2568 ปิดที่ 43,433.12 จุด ลดลง 188.04 จุด หรือ -0.43% แต่ดัชนี S&P 500 และNasdaq ฟื้นตัวจากที่ร่วงลงในวันก่อน ก่อนผลประกอบการรายไตรมาสจาก Nvidia ซึ่งแนวโน้มเชิงบวกของบริษัทอาจสามารถกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,956.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.81 จุด, +0.01%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,075.26 จุด เพิ่มขึ้น 48.88 จุด, +0.26%
หุ้น Nvidia บวกกว่า 3% ก่อนรายงานผลประกอบการไตรมาสสี่หลังปิดตลาด
การรายงานผลการดำเนินงานนับว่าเป็นช่วงสำคัญของ Nvidia การเปิดตัว AI ต้นทุนต่ำ ของ DeepSeek สตาร์ตอัพของจีนในเดือนมกราคมได้เขย่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี AI สหรัฐที่เคยร้อนแรง และทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการลงทุนจำนวนมากในเทคโนโลยี AI ของบริษัทในสหรัฐฯ
คริส บริกาติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ SWBC กล่าวว่า Nvidia เป็นหุ้นที่มีความสำคัญและเป็นที่ชื่นชอบของตลาดซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อตลาดในวงกว้าง ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นแนวโน้มที่เป็นประโยชน์สำหรับตลาดในวงกว้าง
แดเนียล มอร์แกน ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Synovus Trust กล่าวว่า ความคิดเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องจาก Nvidia จะหนุนหุ้นของบริษัทที่ลงทุนมหาศาลใน AI และจะเป็นรายงานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด
ตลาดปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงบ่าย จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งในระหว่างการประชุมกับฝ่ายบริหารครั้งแรก ทรัมป์กล่าวว่าฝ่ายบริหารของเขาจะประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปในอัตรา 25% ในเร็วๆ นี้ แต่ก็ให้ความหวังที่จะมีการระงับการเก็บภาษีนำเข้าใหม่ที่สูงจากเม็กซิโกและแคนาดาอีกครั้ง โดยกล่าวว่าภาษีเหล่านี้จะมีผลในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งช้ากว่ากำหนดเส้นตายในสัปดาห์หน้าประมาณหนึ่งเดือน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2024 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุด ซึ่งรวมถึงรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอในวันอังคาร ได้บ่งชี้เป็นนัยว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจจะหยุดชะงักแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้นักลงทุนมีความระมัดระวังสูง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงานเมื่อคืนนี้ได้แก่ยอดขายบ้านใหม่เดือนมกราคมจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งลดลงมาที่ 657,000 ยูนิต ต่ำกว่า 680,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด จาก 734,000 ยูนิตในเดือนธันวาคม
ตลาดยุโรปปิดบวกปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท และนักลงทุนประเมินผลกระทบของข้อตกลงแร่ที่สำคัญระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน
ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้น 1% โดยได้รับแรงหนุนจากธนาคารเป็นวันที่สองติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มประกันภัยเพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากที่ Munich Re ของเยอรมนีประกาศผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีที่สูงกว่าประมาณการ
ผลการดำเนินงานที่ดีจาก Wienerberger’s บริษัทผลิตอิฐส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้น 11.3% และหนุนกลุ่มก่อสร้างและวัสดุให้เพิ่มขึ้น 1.9%
หุ้นส่วนใหญ่ใน STOXX ปิดสูงขึ้น ขณะที่หุ้นสื่อลดลง 2.5% โดย Wolters Kluwer บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลเนเธอร์แลนด์ ร่วงลง 10.9% หลังจากการประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของ แนนซี แมคคินสทรี
สหรัฐฯ และยูเครนตกลงในเงื่อนไขร่างข้อตกลงแร่ ก่อนการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีที่ตุรกี
โจเชน สตานซ์ล หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ CMC Markets กล่าวว่า ทรัมป์กำลังสร้างความไม่แน่นอนมากมายเกี่ยวกับภาษีและการเมืองของเขา นักลงทุนจึงพยายามจัดสถานะการลงทุนให้อยู่ในจุดที่ได้ประโยชน์หากสงครามการค้าเกิดขึ้น
Stanzl กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐถูกมองว่ามีราคาสูง และมูลค่าหุ้นที่ห่างกันทำให้หุ้นยุโรปน่าสนใจ
หุ้นขนาดกลางของเยอรมนีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน โดยได้แรงหนุนจากมุมมองทางบวกเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการเติบโตและการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่สูงขึ้นจากรัฐบาลชุดต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มจะนำโดยพรรคอนุรักษ์นิยมของฟรีดริช เมิร์ซ
หุ้นดัชนีอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมของยุโรปเพิ่มขึ้น 1.5%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะให้ไฟเขียวแก่ UniCredit ของอิตาลีเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Commerzbank คู่แข่งจากเยอรมนี หุ้น UniCredit เพิ่มขึ้น 3.1% และ Commerzbankเพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้นAnheuser-Busch InBev เพิ่มขึ้น 8.9% หลังจากรายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่สี่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้น Stellantis ผู้ผลิตรถยนต์ลดลง 4.1% หลังจากคาดการณ์แนวโน้มที่ระมัดระวังสำหรับปี 2025 หลังจากผลประกอบการประจำปีได้รับผลกระทบ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 559.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด, +0.99%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,731.46 จุด เพิ่มขึ้น 62.79 จุด, +0.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,143.92 จุด เพิ่มขึ้น 92.85 จุด, +1.15%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,794.11 จุด เพิ่มขึ้น 383.84 จุด, +1.71%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 68.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล