HoonSmart.com>>สามารถฯคาดปี’67 ทำกำไรได้สูงสุดรอบ 8 ปี เหตุต้นทุนการเงินลดฮวบหลังนำ SAV เข้าตลาด ตั้งเป้ารายได้ 13,000 ล้านบาท โต 30% จากสายธุรกิจดิจิทัล-ยูทิลิตี้ เดินหน้าหาแหล่งทุนใหม่ ลดการพึ่งพิงแหล่งทุนภาครัฐ ทำงานร่วมกับพันธมิตรพัฒนาสินค้าและบริการตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ ประมาณ 13,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปี 2566 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ยืนอยู่บนความเป็นไปได้ เพราะจากเบล็กล็อคของทั้งกลุ่มที่มีอยู่ในมือถึงปัจจุบัน 15,000 ล้านบาท โดยจะมาจากงานเก่า 40% และจากธุรกิจของสามารถเทเลคอม รวมถึงงานยูทิลิตี้และทรานสปอตเทชั่นใหม่ๆ จะมีแบล็คล็อคมากขึ้น ก็จะช่วยได้ ในส่วนของธุรกิจดิจิทัล ทรังค์ เรดิโอ ปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้จากค่าแอร์ไทม์
“จะช่วยในเรื่องกำไรในกลุ่มได้มากทีเดียว ปีนี้ถ้าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ การตั้งเป้ารายได้ 13,000 ล้านบาท น่าจะเป็นปีที่ได้กำไรสูงที่สุดในรอบ 7-8 ปี”นายวัฒน์ชัย กล่าว
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ปีนี้งบประมาณของรัฐบาลออกมาล่าช้าทำให้ ทำให้เศรษฐกิจซบเซา เพราะทำให้การลงทุนของรัฐก็ล่าช้าออกไปด้วย ขณะที่การแข่งขันรุนแรง ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็แข่งขันกันแรง และมีรายใหญ่ลงมาเล่นด้วย ก็กลายเป็นว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
ขณะที่ต้นทุนการเงินก็สูงขึ้น ระดมทุนก็ไม่ง่าย ยิ่งสตาร์ทอัพ จะต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน จึงจะหาคนร่วมลงทุนได้
ในส่วนของบริษัทสามารถฯ โชคดีที่ปีนี้ต้นทุนการเงินในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยลดลงไปหลายร้อยล้านบาท ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและทำธุรกิจได้เพิ่มขึ้น
“ปีที่แล้วเอา บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) เข้าระดมทุนในตลาด ก็สามารถที่จะลดดอกเบี้ยได้เยอะ ลดหนี้สินลงไป สามารถนำเงิน 3,000 ล้านบาทไปขยายการลงทุนใหม่ๆได้”นายวัฒน์ชัย กล่าว
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทยังทำการแสวงหาเงินทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อลดการพึ่งพิงงบลงทุนภาครัฐเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นการที่งบประมาณรัฐออกมาล่าช้า บริษัทฯก็จะไม่แย่
“ปัจจุบันก็มีกองทุนต่างๆมากมายที่เราดูอยู่ ทั้งกองทุนอนุรักษ์พลังงาน กองทุนดิจิทัล หรือว่างบท้องถิ่น รวมไปถึงการแสวงหาความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในรูปแบบต่างฯ”นายวัฒน์ชัย กล่าว
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า การทำธุรกิจเพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ก็พยายามมองธุรกิจยาวๆ ขึ้น ปี 2567 จะมีการขยายธุรกิจเพิ่มอีก 1 ธุรกิจ ซึ่งอยู่ระหว่างการปั้น เชื่อว่ากลางปีนี้น่าจะมีการเกิดขึ้น
บริษัทฯจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่คู่แข่งไม่มาก เช่นการทำโซลูชั่น หรือ ระบบ SAP ด้านการเงิน ด้านจัดการองค์กร ที่ไม่มีผู้เล่นในตลาดมากนัก ทำให้มีรายได้ประจำเข้ามาสม่ำเสมอ และก็พยายามต่อยอดจากธุรกิจที่มีอยู่และขยายธุรกิจใหม่ๆ ประกอบด้วย ธุรกิจบริการควบคุมการจราจรทางอากาศและการบริหารข้อมูลในสนามบิน การให้บริการระบบการพิมพ์รหัสเพื่อจัดเก็บภาษี การให้บริการระบบ Digital Banking / Payment / Learning ,ระบบ SAP ERP และระบบ CCTV
ทั้งนี้ รายได้ 13,000 ล้านบาทของบริษัทสามารถฯจะมาจาก 3 สายธุรกิจ แยกเป็น สายธุรกิจ Digital ICT Solution ปีที่ผ่านมากลุ่มสามารถเทลคอม (SAMTEL) ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,300 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือปัจจุบัน รวมประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30%
สายธุรกิจ Utilities & Transportations โดยในปี 2568 สายธุรกิจนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 5,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23% ด้วยโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะจาก บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาภายใต้ CATS คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 30%
สายธุรกิจ Digital Communications ธุรกิจ Digital Trunk Radio มีการเติบโตอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยมีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องวิทยุลูกข่ายและค่าใช้บริการ Air Time เพิ่มขึ้น 300%โดยในปี 2567 บริษัทมีแผนการขยายฐานผู้ใช้บริการให้กว้างขวางและครอบคลุมหน่วยงานผู้ให้บริการประชาชน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ราย