MINT-AAV-AOT ขึ้นนำกลุ่มท่องเที่ยว ลุ้นนักท่องเที่ยวปีนี้สูงกว่าคาด

HoonSmart.com>>หุ้น MINT-AAV-AOT ขึ้นนำกลุ่มท่องเที่ยว สัญญาณบวกจากยอดผู้ใช้บริการสนามบินไปต่างประเทศขึ้นมาที่ 81.6% ของยอดก่อนโควิด สอดคล้องกับข่าวล่าสุดระดับ Service Charge ที่พนักงานโรงแรมจังหวัดท่องเที่ยวกลับมาอยู่ในระดับสูง สร้างความเชื่อมั่นต่อภาพ upside นักท่องเที่ยวปี 67 สูงกว่าตลาดประเมิน ด้านบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี มองบวกกลุ่มโรงแรม รายได้จากห้องพักปี 67 ยังอยู่ในขาขึ้น  เชียร์ MINT-ERW

เมื่อเวลา 15.27 น.หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวขยับขึ้น นำโดยหุ้น MINT บวก 3.42% มาที่ 30.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 720.36 ล้านบาท
หุ้น AAV บวก 2.83% มาที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 64.90 ล้านบาท
หุ้น AOT บวก 2.10% มาที่ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,717.59 ล้านบาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า สัญญาณท่องเที่ยวเป็นบวก (Positive) สัปดาห์ล่าสุดเร่งตัวอย่างมาก อิงยอดผู้ใช้บริการสนามบิน AOT ไปต่างประเทศ 1-27 ม.ค. ขึ้นมาที่ 81.6% ของยอดก่อนโควิด ประเมิน 21-27 ม.ค. สัดส่วนสูง 83.7% ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกระแสข่าวล่าสุดที่ระดับ Service Charge ที่พนักงานโรงแรม จังหวัดท่องเที่ยวได้รับกลับมาอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ ประเมินนักท่องเที่ยวเดือนม.ค. 2566 ไม่ต่ำกว่า 3.0 +/- ล้านคน และเชื่อว่าจะเร่งตัวชัดเจนอย่างน้อยถึงสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. 2567 ที่เป็นเทศกาลตรุษจีน หลังจากนั้นจะยืนสูงต่อเนื่อง จากผลบวกมาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร ประเมินตลาดจะเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อภาพ Upside นักท่องเที่ยวปี 2567 สูงกว่าตลาดประเมินราว 32 +/- ล้านคน

ด้านกลยุทธ์ ยังมองหุ้นอิงภาคท่องเที่ยวที่ยังมี Upside ชัดเจนระยะถัดไป ยังน่าสนใจลงทุน กลุ่มการบิน เน้น AOT (ราคาเป้าหมาย 73.25 บาท), AAV (ราคาเป้าหมาย 2.4 บาท) กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม เน้น ERW(ราคาเป้าหมาย 6.3 บาท) , MINT (ราคาเป้าหมาย 40 ่บาท) ทั้งนี้ นักลงทุนเน้นเก็งกำไรตามภาพเทคนิค วางกรอบเก็งกำไร ดังนี้

AOT วางแนวรับ 59/58.5 แนวต้าน 60.5/61.25 Stop Loss 57 บาท
AAV วางแนวรับ 2.12/2.08 แนวต้าน 2.2/2.38 Stop Loss 2.06 บาท
ERW วางแนวรับ 5.05/4.98 แนวต้าน 5.25/5.35 Stop Loss 4.8 บาท
MINT วางแนวรับ 29.5/29.0แนวต้าน 30/31 Stop Loss 28.5 บาท

ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ออกบทบทวิเคราะห์ว่า จากข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ชี้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัวแล้วเกือบ 90% ของสถิติก่อนโควิด-19 ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าช่วงก่อนโควิด-19 คาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไทย จะอยู่ที่ 32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% yoy หรือราว 80% ของสถิติก่อนโควิด-19 ปี 2562 จากนักท่องเที่ยวจีนน่าจะฟื้นตัวช้า

ฝ่ายวิจัยฯมองโรงแรมไทยมีผลประกอบการดี แม้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะฟื้นตัวปานกลางในปี 2566 คาดมีรายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) สูงกว่าปี 2562 ประมาณ 10% ผลจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) สูง และนักท่องเที่ยวเข้าพักเฉลี่ยนานขึ้น คาดว่า RevPAR ยังเป็นขาขึ้นในปี 2567 เพราะการเติบโตของอุปสงค์ ทำให้อัตราการเข้าพักและ ADR สูงขึ้น  แต่มีปัจจัยลบที่มีผลต่อการทำกำไรในไตรมาส 4/66  เช่น การที่ RevPAR ของโรงแรมในมัลดีฟส์มีแนวโน้มอ่อนตัว (กระทบ SHR และ CENTEL), การขึ้นดอกเบี้ย, มาร์จิ้นของธุรกิจอาหารฟื้นตัวต่ำกว่าปกติ และค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินงานโรงแรม

“เราประมาณการว่า กลุ่มโรงแรมจะมีกำไรดำเนินงานปกติรวม 2.65 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 ลดลง 2% yoy และเพิ่มขึ้น 10 % qoq โดย ERW และ MINT น่าจะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโตดี 2% yoy และ 4% yoy ตามลำดับ ขณะที่คาดว่า CENTEL และ SHR อาจมีผลประกอบการที่อ่อนตัวจากโรงแรมที่มัลดีฟส์ นอกจากนี้กลุ่มโรงแรมยังมีมูลค่าน่าสนใจ EV/EBITDA 9.5 เท่าในปี 2567 เทียบก่อนโควิด-19 ที่ EV/EBITDA 15 เท่า จึงคงคำแนะนำ Overweight กลุ่มโรงแรม เลือก ERW และ MINT เป็นหุ้น Top pick”ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุ