CHAO ชูกลยุทธ์ดันรายได้ 2.2 พันล้านปี’70 ส่งแบรนด์ขึ้นระดับโลก เพิ่มอัตรากำไร 

HoonSmart.om>>”เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี” (CHAO) ประกาศ 4 กลยุทธ์สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ปักธงปี 68 ขยายตลาดส่งออกเพิ่ม 5-10 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และกลุ่มประเทศฮาลาล แผน 3 ปี รายได้โตเฉลี่ย  12-15% ต่อปี ทะลุ 2,200 ล้านบาทในปี 70 เพิ่มยอดขายต่างประเทศจาก 25% เป็น 35% อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น มุ่งสร้างแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยชั้นนำระดับโลก 

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี  (CHAO) เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มงบการตลาดสร้างแบรนด์ “เจ้าสัว” มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการรักษาการเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ควบคู่กับการเดินหน้ายุทธศาสตร์สำคัญในการนำพาแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยไปสู่ตลาดโลก ภายใต้แนวคิด “Bring local to global” เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยชั้นนำระดับโลก

บริษัทฯ วางเป้าหมาย 3 ปี รายได้เติบโตทะลุ 2,200 ล้านบาท ในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 12-15% ต่อปี ผ่าน 4 กลยุทธ์ได้แก่ 1) ความเป็นเลิศด้านการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์”เจ้าสัว”ให้เป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำขนมขบเคี้ยวคุณภาพของไทย

2) นวัตกรรมและความหลากหลาย  มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ต่ำกว่า 15-20 SKUs อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีแผนขยายไปสู่ตลาดขนมเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าสู่หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

3) เสริมความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่าย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางค้าปลีกทั้งแบบดั้งเดิม และค้าปลีกสมัยใหม่  ควบคู่ไปกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมีสัดส่วน 2-3% เพิ่มเป็น 8% รวมถึงการขยายไปยังช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม

สำหรับตลาดต่างประเทศ กลุ่มประเทศเดิมที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ และมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยได้รับผลตอบรับดีจากผู้บริโภคอยู่แล้ว จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กลุ่มลูกค้าเดิม ควบคู่กับการขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยแบ่งเป็นตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นใหม่ กลยุทธ์หลักคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบรนด์เจ้าสัวเข้าสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย ก่อนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ พร้อมทั้งเพิ่มการออกงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้า

ส่วนประเทศจีน บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนลูกค้า ทั้งในกลุ่มผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีก ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และกระตุ้นยอดขาย สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชีย  ได้เริ่มขยายตลาดเพิ่มเติมในปี 2567 ที่ผ่านมา กลยุทธ์ในปี 2568 จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง และการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

4) การขยายตลาดสู่ระดับสากล โดยในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการขยายสู่กลุ่มประเทศใหม่เพิ่มเติม 5-10 ประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพเติบโตในภูมิภาคเอเชีย และยุโรป ผ่านการออกงานแสดงสินค้า พร้อมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการวางแผนในการเข้าสู่ตลาดใหม่อย่างมีกลยุทธ์ และรอบคอบ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม บริษัทฯ วางแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก  พร้อมขยายไปสู่ภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง รวมถึงตลาดในกลุ่มประเทศฮาลาล ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการเติบโต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผ่านการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงกระบวนการอัตโนมัติ การเพิ่มแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างอัตรากำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแบบ 100%  โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายต่างประเทศจากสัดส่วน 25% เป็น 35% ของยอดขายรวม

ทางด้านนายสิริณัฏฐ์ ชญาน์นันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี  กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวไทยระหว่างปี 2567-2570 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6.5% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์ของเจ้าสัวคาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลัก โดยตลาดข้าวตังจะเติบโตเฉลี่ย 14.4% ซึ่งเจ้าสัวมีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ 79% คาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมที่ 1,635 ล้านบาท ขณะที่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์เติบโตเฉลี่ย 13.9% โดยเจ้าสัวครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ 62% และคาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 732 ล้านบาท สะท้อนความแข็งแกร่งว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของเจ้าสัวมีความแตกต่างและโดดเด่น มีศักยภาพเติบโตได้ดีกว่าตลาดขนมขบเคี้ยวโดยรวม

ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของขนมขบเคี้ยวกลุ่ม Better-for-you Snack ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จึงได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุม รวมทั้งสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นขนมขบเคี้ยวทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค ควบคู่กับการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่  ซึ่งเจ้าสัวเป็นผู้นำตลาดมาอย่างต่อเนื่อง

“เจ้าสัวขยายตลาดส่งออก ซึ่งจะได้อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขายในประเทศ และต้นปี 2569 โรงงานใหม่ที่ได้รับการรับรองเรื่องฮาลาลจะเริ่มผลิต เพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวจาก 2,000 ตัน เป็น 4,000 ตัน  ส่วนการลงทุนงบการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์คาดว่าตั้งแต่ปี 2571-2573 ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลตอบแทนอย่างแท้จริง ขณะที่มีค่าใช้จ่ายคงที่น้อยกว่ารายได้”นายสิริณัฏฐ์กล่าว