โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ หลังจีนต้องการทำข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ บอนด์ยิลด์ลดลง “ดีบีเอส วิคเคอร์ส” ให้แนวต้าน 1,645 จุด แนะทยอยสะสมหุ้น “โนมูระ พัฒนสิน” ด้านกรุงศรี-แอพเพิล เวลธ์” คาดหุ้นแกว่งตัวแคบรอปัจจัย
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดระยะสั้นดัชนีมีโอกาสจะรีบาวด์ หลังสหรัฐกล่าวว่าจีนต้องการจะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ และเฟดเห็นว่าใกล้ถึงจุดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐควรเป็นกลางและขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 124 จุด บอนด์ยิลด์สหรัฐลดลงเป็น 3.0619% ดัชนีความกลัว (VIX) ต่ำลง ดออลลาร์อ่อนค่า เงินไหลออกน้อยลง ล่าสุดราคาน้ำมันเบรนท์กลับมาฟื้นตัวเล็กน้อย หลังมีข่าวโอเปกจะประชุมลดกำลังการผลิต ตลาดหุ้นเพิ่อนบ้านรีบาวด์เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจัยลบคือ บาทยังอ่อนค่าลงเล็กน้อย แม้ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังมีความเห็นของเฟด หาก SET รีบาวด์ได้ แนวต้านถัดไปคือ 1645-1650 แต่หากถูกขายแนวรับถัดไปคือ 1630-1620
กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ ยังคงเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดีเมื่อราคาหุ้นปรับลงตามดัชนีฯ และเลือกหุ้นที่มีประเด็นที่น่าสนใจ หุ้นเน้นธุรกิจในประเทศ (Domestic Play) รวมทั้งหุ้นปันผลสูง นักลงทุนระยะสั้นควรเล่นรอบสั้นๆ ไม่หวังกำไรมาก ควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม และทยอยขายทำกำไรเมื่อได้ตามเป้าหมาย แต่ SET ตามพื้นฐานระยะยาว 1 ปี ให้ไว้ที่ 1860 จุด ที่ P/E 17 เท่า ซึ่งเป็น Median+1 SD และ EPS ปี 61 เติบโตเฉลี่ย 10% ดังนั้นดัชนีฯปรับลง แนะนำให้ทยอยสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาวเมื่ออ่อนตัว ตามปัจจัยต่างประเทศที่ยังกดดัน
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาด “Sideway Up” แนวต้าน 1,649/1,655จุด แนวรับ 1,624/1,619 จุด โดยจีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ คลายกังวลสงครามการค้า ผสานรองประธาน FED เผยอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางแล้ว สะท้อนทิศทางดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า กระตุ้น Fund Flows ไหลเข้า TIPs 2 วัน รวม 154 ล้านเหรียญ
นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากคสช.ออกคำสั่งม.44 ยืดเวลากกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง-พรรคหาผู้สมัครได้จนถึงวันสมัคร หนุนการเลือกตั้งเป็นไปตาม Roadmap
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้แนะ Theme “BOI Play”: AMATA, WHA, NETBAY
บล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนีแกว่งตัว 1,630 – 1,645 จุด โดยภาวะตลาดได้ sentiment เชิงบวกจากความคาดหวังสหรัฐ-จีนจะสามารถเจรจาทางการค้ากันได้ โดยประธานาธิบดีสหรัฐทรัมป์เผยว่าจีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐหลังถูกผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้า
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้นจากคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตลงในการประชุมวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งซึ่งกดดันต่อกระแส Fund flow ให้มีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะตลาดที่ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนในระยะสั้นหลังประกาศงบ 3Q18 แล้วซึ่งจะส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรกดดันดัชนีได้
บล.แอพเพิล เวลธ์ ประเมินดัชนี SET ยังทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,620 – 1,630 จุด แนวต้าน 1,645 – 1,650 จุด แนะนำทยอยซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัวในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนและการบริโภคฟื้นตัวช่วงปลายปีและก่อนเลือกตั้งเช่น BBL, KTB, AMATA, WHA, CK, STEC, CPALL , ROBINS