HoonSmart.com>>หุ้น MGI ซิลลิ่ง 30.70% หลังบอร์ด”มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล”(MGI) อนุมัติซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) รวม 5 ปี (68-72 ) มูลค่า 180 ล้านบาท จากลูก JKN คือ JKN Global Content บริษัทในสิงคโปร์ เป้าหมายขยายฐานการประกวดนางงามไปยังเวทีระดับโลก อนุมัติกู้เงินไม่เกิน 150 ล้านบาท จาก”ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ซีอีโอ-ผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI คิดดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ชำระคืนภายใน 2 ปี
หุ้น MGI ปิดซิลลิ่ง 30.70% ที่ 14.90 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 170.55 ล้านบาท วันที่ 17 ก.พ. 2568
บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2568 วันที่ 17 ก.พ.2568 ได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนโดยการซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) สำหรับปี 2568-2572 รวมทั้งสิ้น 5 ปีจาก JKN Global Content Pte. Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ถือหุ้นทั้งหมด โดยบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เป็นเงินทั้งสิ้น 180 ล้านบาท รวมถึงการเข้าทำสัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์
ส่วนแหล่งเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 30 ล้านบาท และการกู้ยืมเงินจากนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท โดยไม่มีหลักประกันในวงเงินกู้ 150 ล้านบาท
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในของกลุ่มบริษัท โดยการขยายฐานการประกวดนางงามไปยังเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งเป็นเวทีระดับโลก นอกเหนือจากเวทีการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลที่บริษัทดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในระดับสากล นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการและผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในระยะยาว
นอกจากนี้ ได้อนุมัติให้ MGI กู้ยืมเงินจากนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยไม่มีหลักประกัน ในวงเงินกู้ไม่เกิน 150 ล้านบาท รวมถึงการเข้าทำสัญญากู้เงิน มีอัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าดอกเบี้ยที่บริษัทจะต้องชำระตลอดช่วงเวลาที่กู้ยืมเงินตามสัญญา จำนวนไม่เกิน 7.5 ล้านบาท โดยมีกำหนดของการชำระคืนเงินกู้ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ผู้กู้ขอเบิกใช้วงเงินกู้
นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท กล่าวคือ เป็นกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในฐานะผู้กู้โดย ณ วันที่ 17 ก.พ. 2568 ถือหุ้นในอัตรา 42.88% ของทุนจดทะเบียนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วของบริษัท

