HoonSmart.com>>บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยย่อตัวลงต่ำรอบ 10 ปี จังหวะซื้อลงทุน หวังนโยบายรัฐหนุนดัชนีฟื้น กำไรบจ.โต วางเป้าดัชนีปีนี้ 1,530 จุด แนะจัดพอร์ตกระจายลงทุน ชู “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” เด่น รับแรงหนุนนโยบาย “ทรัมป์” ส่วน “หุ้นไทย” แนะหุ้นปันผลสูง

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามาก ปัจจุบันมีมูลค่าต่ำกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เป็นจุดที่น่าลงทุน โดยมองแนวโน้มดัชนีปีนี้ที่ระดับ 1,530 จุด คาดหวังแรงขับเคลื่อนจากการเบิกจ่ายงบของภาครัฐ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ หากเกิดขึ้นได้ไวจะหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้ต่อ ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้
สำหรับภาพรวมการลงทุนในปีนี้ มองตลาดต่างประเทศน่าสนใจมากกว่า เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากมุมมองของ BlackRock คาดแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯยังไปได้ต่ออีก 1 ปี จากการกลับมาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมีนโยบายหนุนให้สหรัฐแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยหุ้นเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นเมกะเทรนด์เติบโตระยะยาว แต่ต้องจับตาการเลือกตั้งย่อยของสหรัฐ ช่วงเดือนพ.ย.2569 หากทรัมป์ไม่ได้คะแนนเสียงทั้งสภาสูง และสภาล่าง อาจส่งผลต่อมาตรการและนโยบายต่าง ๆ ที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้
“เรามอง 6 เดือนก่อนเลือกตั้งย่อยสหรัฐฯในปีหน้า หรือประมาณเดือนเม.ย.-พ.ค.อาจเกิดความไม่แน่นอนเกิดขึ้น หุ้นอาจผันผวน พรรคการเมืองไม่นิ่ง นโยบายไม่นิ่ง แต่จากตอนนี้ถึงปีหน้ามองหุ้นสหรัฐยังน่าสนใจ”นายพจน์ กล่าว
สำหรับมูลค่าหุ้นในตลาดเมื่อเทียบ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่าหุ้นโลก หุ้นเติบโต หุ้นสหรัฐและหุ้นอินเดียราคาปรับตัวขึ้นมาก ขณะที่หุ้นเอเชีย จีน เกาหลี สิงคโปร์และไทยถือว่ายังถูกอยู่ และน่าสนใจลงทุน แต่หลังทรัมป์เข้ามาจึงยังไม่แน่ใจต่อการลงทุน อย่างไรก็ตามในระยะสั้นยังต้องจับตานโยบายทรัมป์ จะขึ้นภาษีจีน ไทยและประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จำนวน 4 ครั้งอาจไม่ถึงแล้ว อาจเหลือเพียง 1 ครั้ง หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ตัวเลขว่างงานยังดี เงินเฟ้อก็อยู่ระดับสูง และนโยบายของทรัมป์อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จึงมองการลงทุนในตราสารหนี้โลกในช่วงต้นปีอาจยังไม่ใช่จังหวะลงทุน ควรรอจังหวะที่ดอกเบี้ยขึ้นแตะระดับ 5% อาจเป็นเวลาเข้าลงทุนได้อีกครั้ง
“สำหรับพอร์ตการลงทุนในปีนี้ ยังคงแนะนำการจัดพอร์ตกระจายการลงทุน เพิ่มน้ำหนัก หุ้นสหรัฐฯ จากแนวโน้มเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง สินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ ส่วนบิทคอยน์ซึ่งอาจได้แรงหนุนจากการที่แบงก์ชาติทั่วโลกเริ่มจะนำมาใช้เป็นทุนสำรองหรือบางประเทศใช้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งบิทคอยน์มีจำนวนจำกัด รวมถึงกองทุน Life Settlement ลงทุนกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรอง”นายพจน์ กล่าว
กองทุนที่น่าสนใจในปีนี้ ได้แก่ ONE-UGG ลงทุนหุ้นเติบโตคุณภาพดีทั่วโลก , ONE-BTCETFOF-UI กระจายการลงทุนผ่านกองทุน Spot Bitcoin ETF 2 กองทุนขึ้นไป ,ONE-LIFESET-UI กระจายความเสี่ยง พร้อมสร้างผลอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวและ ONE-THAIESG/ Thai ETF (TDEX) ลงทุนหุ้นไทยยั่งยืน SET50