“คิงส์ฟอร์ด” คาด SET ดีดกลับ กรอบวันนี้ 1.370-1,390 จุด

HoonSmart.com>>คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เช้านี้มีโอกาสรีบาวนด์จากภาวะขายมากเกินไป โดยมีแนวรับ 1,370 – 1,375 จุด แนวต้าน 1,385 – 1,390 จุด การฟื้นตัวยังจํากัด รอการประชุม FED & ECB แนะนําพักเงินกลุ่มปลอดภัย ปันผลสูง ใน INTUCH, BH, AP, DMT, SAT เก็งกําไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค TKN, CBG, PRM, BSRC, SUN

บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่า ดัชนี SET วานนี้ 17 ม.ค.67 ปิด -21.07 จุด -1.5% อยู่ที่ 1,380.65 จุดมูลค่าการซื้อขาย 56,707 ล้านบาท  ดัชนีถูกกดดันจากกลุ่ม Big Cap เช่น วัสดุก่อสร้าง,บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี และขนส่ง ซึ่งเป็นกลุ่ม Global Play ที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีนที่ปีนี้คาดชะลอตัวต่อเนื่อง กอปรกับ US และ Euro Bond Yield ปรับขึ้นจากความไม่แน่นอนว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ใน มี.ค. หรือไม่ ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้น สวนทางกับค่าเงินบาทอ่อนค่าวานนี้ปิดที่ 35.52 บาท/USD. ปัจจัยลบกดดันให้ Fund Flow ชะลอตัว

วันนี้ รอความชัดเจน มาตรการดิจิทัล วอลเล็ต และรายงานกำไรกลุ่มธนาคาร

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.25%, S&P500 -0.56%, Nasdaq -0.59% กลุ่มอสังหา -1.87%,สาธารณูปโภค -1.52%และกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Amazon, Nvidia, Tesla ปรับลดลงหลังรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค. 0.6% สูงกว่าคาด 0.4%ส่งผลให้เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนาน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.13% กลุ่มสินค้าหรูหรา, รถยนต์, เหมืองแร่ โลหะปรับลดลงซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค. 5.6%สูงกว่า พ.ย. 4.0% YoY และ NAHB เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านม.ค. +7 จุด อยู่ที่ 44 สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 66บ่งชี้การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งส่งผลให้เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงต่อไป ซึ่ง CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 53.8% และเดิม 60% คาดเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน มี.ค.และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.1% นักลงทุนรอฟังความเห็นของ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค จอห์น วิลเลี่ยมส์ (สายกลาง) ก่อนเข้าช่วง Blackout Period ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค. นี้

ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านสหรัฐ ธ.ค.

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังปธ.ECB คริสติน ลาการ์ด เผย ECB กำลังดำเนินมาตรการเพื่อกดดันให้เงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมาย 2 % แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสวนทางกับตลาดคาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยปีนี้ 1.50% ขณะที่ ONS อังกฤษเผย CPI ธ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.0% และ พ.ย. 3.9% YoY เป็นผลจากอากรบุหรี่ และตั๋วเครื่องบินปรับขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาด BOE มีโอกาส 60% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ และอาจช้ากว่า ธ.กลางอื่นๆ

ทางฝั่งดัชนีภูมิภาคเอเชียวานนี้ปรับลดลง หลัง GDP จีน Q4/66 +5.2% & Q3/66 +4.9% YoY แต่ต่ำกว่าคาดที่ +5.3%กอปรมีสัญญาณการบริโภคชะลอตัวจากภาวะเงินฝืด,การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว และปัญหาหนี้ภาคอสังหา ฯคาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้าและกระทบลบต่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในเอเชีย