โบรกเกอร์ทยอยแจ้งผลงานไตรมาส 1/2561 ค่าคอมมิชชั่นหุ้นลดลงถ้วนหน้า เมย์แบงก์กิมเอ็ง กำไรทรุด 42% เหลือ 148 ล้านบาท ส่วนเอเซียพลัสเพิ่ม 18% ได้กำไรจากพอร์ต และค่าธรรมเนียมช่วยเต็มที่
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2561 ว่ามีกำไรสุทธิ 148.84 ล้านบาท ลดลง 108.10 ล้านบาทคิดเป็น 42.07% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 256.94 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิลดลงมากถึง 42% เกิดจากรายได้ค่านายหน้าลดลง 51 ล้านบาทหรือ 8.51% จาก 603 .79 ล้านบาท เหลือ 552.38 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 62.45 ล้านบาทหรือ 11.01% จาก 567.37 ล้านบาทเป็น 504.92 ล้านบาท ส่วนรายได้ค่านายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 11 ล้านบาทหรือ 30.31% จาก 36.42 ล้านบาท เป็น 47.46 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการก็ลดลง 100.87 ล้านบาท ทรุดถึง 94.10% จาก 107.20 ล้านบาท เป็น 6.33 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ค่าที่ปรึกษาทางการเงิน และค่าธรรมเนียมและบริการอื่น ลดลง 77.55 ล้านบาท 22.90 ล้านบาท และ 0.42 ล้านบาทตามลำดับ
บริษัทกำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ เพิ่มขึ้น 23.78 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ โต 1.87 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ลดลง 2.23 ล้านบาทและ 6.43 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.75 ล้านบาทจาก 651.72 ล้านบาท เป็น 652.48 ล้านบาท
ทางด้านบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) ไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36 ล้านบาท เติบโต 18.75%จากระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 192 ล้านบาท
บริษัทกำไรที่ดีขึ้นมาจากกำไรจากการซื้อขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์(พอร์ต) เพิ่มขึ้น 46% เป็นจำนวน 114.44 ล้านบาท เนื่องจากภาวะตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมและบริการก็เพิ่มขึ้น 67% เป็น 117.42 ล้านบาทจากรายได้ค่าจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน และดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 25%
ส่วนค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 3% เป็นจำนวน 273 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น และค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 54% เป็น 15.94 ล้านบาท
รายได้และกำไรที่ดีขึ้น มีผลต่อค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น เกือบ 30% เป็น 508 ล้านบาท