YLG เปิด 4 เทคนิคมือใหม่ลงทุนทองได้กำไร ปีมังกร มีลุ้นราคานิวไฮ

HoonSmart.com>>”วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล”  (YLG)  เผย ปี 67 นักลงทุนรุ่นใหม่เข้าลงทุนทองคำมากขึ้น วายแอลจีแนะกลยุทธ์มือใหม่สร้างกำไร ช่วงมีโอกาสนิวไฮ เตือนอย่าไล่ราคา เล่นรอบเข้าเก็งกำไรระยะสั้นได้ หาจังหวะลงมาหาแนวรับสำคัญ 2,000 ดอลลาร์ และถัดไป 1,982 ดอลลาร์ ขายทำกำไร 2,071-2,089 ดอลลาร์ ส่วนทองคำแท่งในประเทศ 96.5% แนวรับแถว 32,800-33,100 บาท แนวต้านโซน 34,300-34,600 บาท 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล  (YLG) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำปี 2567 จะยังคงเป็นขาขึ้น และมีโอกาสทำนิวไฮ ซึ่งปีนี้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ มีนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดนักลงทุนทองคำออนไลน์ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี มีสัดส่วนมากขึ้นเกือบครึ่ง ที่สนใจลงทุนแบบซื้อ – ขาย เล่นรอบ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อนำไปถือครองไว้ หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีนเป็นต้น

วายแอลจี มี 4 คำแนะนำการลงทุนสำหรับนักลงทุนมือใหม่ในการลงทุนเพื่อให้ได้กำไรที่ดีมีดังนี้

1. เลือกลงทุนผ่านร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากปัจจุบันมิจฉาชีพหลอกลงทุนในทองคำมีจำนวนมาก โดยมีจุดสังเกตคือจะมีข้อความจูงใจว่าจะสามารถทำกำไรได้สูงเกินความเป็นจริงภายในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้แม้ว่าเพจต่างๆจะนำรูปของผู้บริหารร้านทอง และรูปทองที่มีสัญลักษณ์ร้านทองที่มีชื่อเสียงไปใช้ในการโปรโมทก็ไม่ได้การันตีว่าเป็นเพจจริงเสมอไป หากนักลงทุนไม่แน่ใจ สามารถตรวจสอบรายชื่อสมาชิกค้าทองคำแห่งประเทศไทยได้จาก สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย

2. ลงทุนในทองคำ 99.99 ทำได้กำไรได้ดีกว่า 96.5 เนื่องจากทอง 99.99 เป็นที่ยอมรับในระดับโลก สามารถนำไปขายที่ตลาดต่างประเทศได้ รวมถึงให้ส่วนต่างราคาที่ดีกว่า 96.5 โดยทองคำ 99.99 ที่จะนำไปขายต่างประเทศนั้นจะต้องเป็นทองคำที่ซื้อจากร้านที่ได้รับการรองรับจากสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน หรือ LBMA

3. ไม่ไล่ราคาขณะที่ทองคำปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง หากต้องการเล่นรอบเพื่อทำกำไร ควรจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และรอให้ราคาปรับตัวลงก่อน เพื่อรอทดสอบตามบริเวณแนวรับที่มีนัยสำคัญ แล้วค่อยพิจารณาเข้าซื้อ

4. สำหรับการลงทุนในทองคำกายภาพ หากต้องการซื้อเพื่อลงทุน การลงทุนในทองคำแท่งจะมีต้นทุนต่ำกว่าทองรูปพรรณ เนื่องจากไม่มีค่ากำเหน็จ อีกทั้งขายได้ราคาดีกว่า สามารถขายได้ตามราคาเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ แต่ทองรูปพรรณนอกจากโดนหักค่ากำเหน็จแล้วหากไม่ได้นำไปขายร้านเดิมที่ซื้อมาจะได้ราคาต่ำกว่า

นางพวรรณ์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองมีโอกาสนิวไฮในปีนี้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเข้าสู่วงจรขาลง อีกทั้งความกังวลการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับทางด้านเจพีมอร์แกนที่คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยจะพุ่งทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างทางจะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมาบ้างก็ตาม ดั้งนั้นนักลงทุนจึงต้องซื้อขายอย่างระมัดระวัง

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนทองคำในปีนี้ ยังสามารถเข้ามาลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยรอเข้าซื้อจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมาทดสอบบริเวณแนวรับสำคัญ 2,000 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,982 ดอลลาร์ เพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 2,071-2,089 ดอลลาร์

ทางด้านทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ประเมินแนวรับที่บริเวณบาทละ 32,800-33,100 บาท  และแนวต้านพิจารณาที่โซน 34,300-34,600 บาท  (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.95 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 9 ม.ค. 2567 เวลา 15.35น.)