CGSI คาดดัชนี SET แกว่งไซด์เวย์ ไม่ควรหลุด 1,280 จุด

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดดัชนี SET แกว่งไซด์เวย์แถว 1,280-1,315 จุด และไม่ควรหลุด 1,280 จุด เชียร์ BCH, BBL

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway บริเวณ 1,280-1,315 จุด และ จับตาที่บริเวณ 1,280 จุด ว่าไม่ควรหลุด หากหลุดจะมีแรงซื้อกลับมามากน้อยเพียงใด หลัง ตลท.เปิดเฮียริ่งแก้ปัญหาหุ้นใหญ่ครอบงำดัชนี ดึงเกณฑ์ Cappsed Weight มาใช้กับ SET50, SET100, SET50FF รายหุ้นน้ำหนักไม่เกิน 10% ของดัชนี และ Rebalance เป็นรายไตรมาส ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้น DELTA ที่มี Market Cap 13% กดดันดัชนี SET วานนี้

ปัจจัยในประเทศวันนี้ ติดตามรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของไทย ที่ตลาดคาดว่าดัชนี CPI จะขยายตัว 1.3% yoy (vs. เดือนธ.ค. +1.23%) และ Core CPI ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.83% yoy (เดือนธ.ค. +0.79%)

ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างโครงการเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 รัฐบาลยังคงยืนยันว่าจะสามารถดำเนินการภายใน 2Q25 โดยภายในเดือนก.พ. จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลงรายละเอียด

หุ้นแนะนำ BCH เชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนความกังวลของนักลงทุนทั้งการปรับลดอัตราการคืนเงินค่ารักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็น 8,000 บาท/Adj. RW ในไตรมาส 4 ปี 2567 และผู้ป่วยชาวคูเวตที่กลับมารักษาช้าแล้ว (Take profit : 15.1 / Stop loss : 13.5)

BBL ทำกำไรสุทธิ 1.04 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2567 สอดคล้องกับประมาณการของเรา และมีอัตราส่วน NPL ลดลงจาก 3.94% ใน ไตรมาส 3 ปี 2567 เป็น 3.45% ในไตรมาส 4 ปี 2567 เนื่องจากมีการปรับชั้นของสินเชื่อธุรกิจจากสินเชื่อ Stage 3 เป็น Stage 2 (Take profit : 156.5 / Stop loss : 150.5)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างปธน. ทรัมป์และเม็กซิโก/แคนาดา/จีนในช่วงต้นสัปดาห์ไปพอสมควรแล้ว โดยตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงสนับสนุนจาก Nvidia (+5%) หลัง SMCI (+8%) ประกาศว่าระบบ Data centre AI ซึ่งขับเคลื่อนโดยไมโครชิป Blackwell ขั้นสูงของ Nvidia พร้อมที่จะส่งมอบแล้ว รวมถึงหุ้น Amgen (+6.5%) ขานรับบริษัทรายงานกำไรและรายได้ไตรมาส 4 ปี 2567 ที่สูงกว่าตลาดคาด แม้ว่ารายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 ของหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่สำคัญอย่าง Alphabet (-7%) และ AMD (-6%) จะออกมาไม่สดใสก็ตาม

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอทั้งตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนธ.ค. และ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนม.ค. ที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่า Fed จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น (อ้างอิงจาก CME FedWatch ชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 18 มิ.ย.) อย่างไรก็ตาม เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัว 2.9% (ไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ +1.4%, ไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ +3.0%, ไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ +3.1%, ไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ +2.3%) ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน

ติดตามข้อมูลอัตราการว่างงานและตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) เพื่อหาทิศทางแนวโน้มการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติม นอกจากนี้ ติดตามการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp มาที่ระดับ 4.50%

รายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA ที่เพิ่มขึ้น 8.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า +2.3% ท่ามกลางการลงนามคำสั่งใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดของทรัมป์ ที่พยายามจะลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เหลือศูนย์