ASW ทำ New High ทะลุเป้าที่ 1.6 หมื่นล้านบาท มาตรการคลังต่ออายุอสังหาฯ ส่งผลดีผู้ซื้อ

HoonSmart.com>>บริษัท แอสเซทไวส์’ สร้างปรากฎการณ์ New High ทุบสถิติใหม่กวาดยอดขายปี 66 สูงถึง 16,486 ล้านบาท  โตกว่า 16% จากปีก่อน ชี้ปี 66 มีโครงการสร้างเสร็จทยอยโอนถึง 10 โครงการ มูลค่ารวม 14,530 ล้านบาท ส่วนปี 67 วางแผนโอนกรรมสิทธิ์อีก 10 โครงการ หนุนรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง มองภาครัฐต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีผู้ซื้อบ้านช่วยกระตุ้นตลาด

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW)  เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ ทำผลงานประสบความสำเร็จเกินเป้าที่ตั้งไว้ โดยสามารถสร้างยอดขาย New High ที่ 16,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2565 ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่วาง ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการ คอนโดฯ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายผ่านเอเยนต์ในเฟสแรกได้ภายในวันเดียว

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 เป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมมีปัจจัยเสี่ยงทั้งภายใน และภายนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน ทั้งคอนโดฯ สำหรับคนทำงานในเมือง ที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และตลาดคอนโดฯ รอบสถานศึกษา ที่มีความต้องการสูงทั้งในกลุ่มนักศึกษา ผู้ปกครอง รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และบริหารเงินด้วยการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาวในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ และการกลับมาของตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ดังนั้น ในปี 2566 ถึงแม้จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่ก็ถือว่าเป็นปีทองของ ASW เช่นกัน เพราะนอกจากจะมียอดขายเติบโตสร้างสถิติใหม่แล้ว ยังเป็นปีที่มีโครงการใหม่ทยอยสร้างเสร็จเพื่อโอนกรรมสิทธิ์สูงถึง 10 โครงการ มูลค่าโครงการวม 14,530 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงส่งที่ดีในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566-2567

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวต่อว่า ในปี 2567 บริษัทฯ จะมีโครงการที่สร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนอีก 10 โครงการ รวมมูลค่า 19,307 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,057 ล้านบาท อาทิ แอทโมซ คาแนล รังสิต, เดอะไทเทิล ฮาโล 1, เคฟ ซี้ด เกษตร, เคฟ ยูนิเวิรส์, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ ฯลฯ และแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,250 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา และ ดิ อาเบอร์ ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ซึ่งโครงการแนวราบจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ (Ready to move) รวมถึงความแข็งแกร่งของ Backlog ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของบริษัทฯ ให้เติบโตต่อเนื่องต่อไป

“คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามจีดีพี โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเมินว่าจีดีพีจะขยายตัวที่ 2.7-3.7% ซึ่งจากการที่ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดหย่อนทางภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านออกไปอีก 1 ปี มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะเป็นผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาฯ ในปี 2567” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (TITLE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 82,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 45 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 17 โครงการ และ ณ สิ้นไตรมาส 3’66 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 16,337 ล้านบาท