HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 14.28 จุด รับแรงกดดันจาก DELTA-CPALL เป็นหลัก บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 603.76 บาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 346.40 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามการค้า และทิศทางกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,270-1,280 แนวต้าน 1,300 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 5 ก.พ.68 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,286.74 จุด ลดลง 14.28 จุด หรือ -1.10% มูลค่าซื้อขาย 42,226.09 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,305.17 จุด ต่ำสุด 1,282.04 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 553.52 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 603.76 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 346.40 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 296.16 ล้านบาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้อ่อนแอกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งตลาดในแถบเอเชียเหนือต่างปิดบวกกันก่อนที่ดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ส จะเพิ่มช่วงลบในภาคบ่าย ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเล็กน้อย โดยตลาดรับแรงกดดันจากหุ้น 2 ตัวเป็นหุ้น DELTA ที่ร่วง 8% และ CPALL ร่วง 3% สองตัวนี้กระทบดัชนีฯราว 11 จุด ซึ่งดัชนีฯร่วง 16 จุดในช่วงระหว่างเทรด
ทั้งนี้ DELTA รับแรงกดดันจากตลาดหลักทรัพย์จะปรับดัชนี SET50/100 จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวให้ไม่เกิน 10% ในครึ่งหลังปี 68 แต่น้ำหนัก DELTA ใน SET50 มี 13% และใน SET100 มี 11-12% ทำให้กองทุนอาจต้องปรับลดน้ำหนักออกไป และบ่ายนี้ Nasdaq ฟิวเจอร์ส เพิ่มช่วงลบด้วย ทำให้เป้นปัจจัยกดดัน DELTA ไปด้วย ส่วน CPALL ก็ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ 7&I ต้องการให้กลุ่มซีพีไปลงทุน 7-11 ในญี่ปุ่น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) ขึ้นอยู่กับความคืบหน้านโยบายภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ โดยช่วงนี้ต้องติตามพัฒนาการสงครามการค้าเป็นรายวัน และทิศทางของกลุ่มเทคโนโ่ลยีในสหรัฐฯ ซึ่งช่วงนี้ DELTA มีอิทธิพลต่อตลาดมากสุด พร้อมให้แนวรับ 1,270-1,280 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ ตลาดคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 4.75% มาเหลือ 4.5% และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (7 ก.พ.)
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -3.38% มูลค่าซื้อขาย 5,157.41 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 8.50 บาท หรือ -6.91% มูลค่าซื้อขาย 4,331.13 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.53% มูลค่าซื้อขาย 2,070.72 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 281.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +0.72% มูลค่าซื้อขาย 1,681.70 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.34% มูลค่าซื้อขาย 1,618.87 ล้านบาท
———————————————————————————————————————————————————–

