HoonSmart.com >> กองทุน 3BBIF แจกข่าวดีรับปีงู ’68 รีไฟแนนซ์เงินกู้บางส่วนก่อนกำหนดกับแบงก์กรุงเทพ ลดต้นทุนการเงิน 3% ผู้ถือหน่วยลงทุน มีโอกาสรับผลตอบแทนมากขึ้น พร้อมดึงแบงก์ซมิโตโม มิตซุย พันธมิตรรายใหม่ ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ถือว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี (3BBIF) ประสบความสำเร็จเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือกับธนาคารกรุงเทพ โดยกองทุน 3BBIF ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงก์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น ( SMBC) นำมาชำระเงินกู้ยืมคงเหลือให้แก่ธนาคารกรุงเทพบางส่วนก่อนกำหนด
ทั้งนี้ก่อนหน้า เมื่อ 19 พ.ย.2562 กองทุน 3BBIF ได้กู้ยืมเงินกับธนาคารกรุงเทพ และกองทุนได้นำทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 558,000 คอร์กิโลเมตร ไปเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อประกันการชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ โดยกองทุนได้ทยอยชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย (อัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MLR ซึ่งณ ปัจจุบัน MLR เท่ากับ ร้อยละ 6.9) ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพเรื่อยมา จนกระทั่ง ณ สิ้นปี 2567 เหลือต้นเงินกู้จำนวน 10,900 ล้านบาท
วันที่ 29 ม.ค. 2568 กองทุน ฯ ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับ SMBC (“สัญญากู้ยืมเงิน SMBC”) จำนวน 5,450 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% กองทุนได้เบิกเงินกู้จำนวนดังกล่าวมาชำระหนี้ ธนาคารกรุงเทพ ก่อนกำหนด เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568
การชำระหนี้ดังกล่าว ธนาคารกรุงเทพ ได้ปลดหลักประกันทางธุรกิจ ทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรให้กองทุน และกองทุนจะนำหลักประกันทางธุรกิจทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวนดังกล่าว ที่ธนาคารกรุงเทพ ปลดให้ไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงิน SMBC ต่อไป
ผลของการชำระหนี้ให้ธนาคารกรุงเทพ บางส่วนก่อนกำหนด ยังส่งผลดีต่อกองทุน เนื่องจากธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงเหลือลง จากเดิม MLR เหลือ MLR – 2.90%
ทั้งนี้ กองทุน 3BBIF ได้ชำระดอกเบี้ยให้ธนาคารกรุงเทพ จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2568 เป็นเงิน 65.937 ล้านบาทเศษ และชำระค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนด อัตราร้อยละ 3 ของเงินกู้ คิดเป็น 163.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ
สำหรับการกู้ยืมเงินจาก SMBC นั้น กองทุนได้ชำระค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ (Front-end Fee) จำนวน 38.15 ล้านบาท ให้แก่ SMBC โดยกองทุน ได้นำกระแสเงินสดของกองทุนไปชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนก าหนด และค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ดังกล่าว
ภายหลังปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนที่กล่าวข้างต้น กองทุนเหลือเงินกู้ค้างอยู่กับธนาคารกรุงเทพ จำนวน 5,450 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR –2.90% และมีหนี้เงินกู้อยู่กับ SMBC จำนวน 5,450 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% รวมเป็นเงินกู้ทั้งสิ้นจำนวน 10,900 ล้านบาท
การปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนนี้ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ซึ่งเป็นประโยชน์และความยั่งยืนในระยะยาวของกองทุน
รวมทั้งยังลดความเสี่ยงในการบริหารเงินทุน นอกเหนือจากธนาคารกรุงเทพ จากการมีพันธมิตรด้านการเงินที่แข็งแกร่งอย่าง SMBC ทำให้ต้นทุนดีกว่าเดิมประมาณ 3% จาก MLR = 6.9%
BBL = MLR – 2.90% = ประมาณ 4.00%
SMBC =THOR +0.98% = ประมาณ 3.23%
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จการรีไฟแนนซ์เงินกู้ของกองทุน 3BBIF ถึงแม้ว่ามี Prepayment Fee + Upfront Fee ถือว่ายังทำให้ต้นทุนลดลงได้ ราว 3% และช่วยลดภาระดอกเบี้ยของ 3BBIF จนถึงสิ้นสุดอายุสัญญากู้ยืมเงินในปี 2573 ส่งผลให้นักลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว มีโอกาสรับปันผลเพิ่มขึ้น
สำหรับกองทุน 3BBIF ภายหลังจากมีผู้สนับสนุนรายใหม่เป็นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS
ซึ่งมีเครดิตที่แสดงถึงสถานะการเงินมั่นคง เข้ามาสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ 3BBIF ได้เพิ่มความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินในการเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของกองทุน และส่งผลให้ SMBC ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการเงินที่แข็งแกร่งอีกราย มาเข้าร่วมให้เงินกู้ยืมกับกองทุนด้วย ซึ่ง AIS ในฐานะผู้สนับสนุนหลักและผู้เช่ารายใหม่ของกองทุน 3BBIF บนเครดิตเรทติ้งของ AIS มุ่งสร้าง benefit ที่ดีที่สุดให้กับ Stakeholder ทุกกลุ่ม ตรงกับความตั้งใจของ AIS ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างยั่งยืนให้กับ 3BBIF เป็นเจตนารมย์ที่กล่าวไว้ก่อนซื้อกิจการ สิ่งนี้แสดงถึงความโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล
อนึ่ง การปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนนี้ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์และความยั่งยืนในระยะยาวของกองทุน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
