WHA เป้า’68 รายได้+ส่วนแบ่งกำไรพุ่ง 35% แตะ 2 หมื่นลบ.+EBITDA กว่า 45%

HoonSmart.com>>ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ตั้งเป้าปี’68 รายได้และส่วนแบ่งกำไรกว่า 2 หมื่นล้านบาท พุ่ง 35% อัตรากำไร EBITDA Margin มากกว่า 45% หนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1.2 เท่า อัดงบลงทุน 5 ธุรกิจ 5 ปี 1.19 แสนล้านบาท ดันรายได้รวมแตะ 1.5 แสนล้านบาท สนลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กในนิคมอุตสาหกรรม สะกิดรัฐ SMR สำคัญ

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า ปี 2568 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไรกว่า 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2567 ที่มีรายได้และส่วนแบ่งกำไร 14,400 ล้านบาท

รายได้และส่วนแบ่งกำไรปี’67 ลดลงจากปี 2565 ที่ทำได้ 17,000 ล้านบาท เพราะ 1.มีการขายทรัพย์เข้ากอง Asset Monetization น้อยกว่าปีประมาณ 2,500 ล้านบาท 2.มีโครงการที่ขายกับ JV ที่ชื่อไออีอาร์ ที่บันทึกบัญชีเฉพาะส่วนแบ่งรายได้ เปรียบเสมือนการรวมงบจะเป็น 1,600 ล้านบาท แต่ตัวเลขหน้างบจะลดลง จะเห็นว่างบ 9 เดือนแรกของปี 2567 EBITDA Margin จะโต 57% พอเต็มปี 2567 จะโต 55%

ทั้งนี้ ปี 2568 จะคงอัตรากำไร EBITDA Margin มากกว่า 45% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนน้อยกว่า 1.2 เท่า เท่ากับปีที่ผ่านมา

ด้านแผนการดำเนินงานใน 5 ปี นับจากปี 2568-2572 เตรียมลงทุนรวม 119,000 ล้านบาท ใน 5 ธุรกิจ เพื่อการขยายและสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว

เงินลงทุนส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ใช้ 37,000 ล้านบาท ธุรกิจโมบิลิตี้ 30,000 ล้านบาท และธุรกิจสาธารณูปโภค น้ำ ไฟสะอาด 29,000 ล้านบาท เพื่อให้รายได้รวมปี 2572 แตะ 150,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 2.9 เท่าจากปี 2567 และมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนน้อยกว่า 1.2 เท่า


สำหรับ ปี 2568 ธุรกิจอุตสาหกรรม จะมีการลงทุนในโครงการทัญฮว้า ที่เวียดนาม เพื่อพัฒนาเขตอุตสาหกรรม 2 แห่ง พื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่ จากปัจจุบันมี 2,297 ไร่ และอยู่ระหว่างขออนุมัติใบอนุญาตลงทุน 1,094 ไร่ โดยนักลงทุนทีเป็นลูกค้า 70% เป้นชาวจีน รองลงมาคือ ไต้หวัน ตั้งเป้ายอดขายที่ดินรวม 2,350 ไร่ แยกเป็นในไทย 1,700 ไร่ และเวียดนาม 650 ไร่ เน้นนักลงทุนกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง

ธุรกิจโมบิลิตี้ ปีนี้จะมีการลงทุนเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่าใหม่ 1,370 คัน รวมของเก่าจะเป็น 1,700 คัน สร้างสถานีชาร์จแบตเตอรี่ 76 แห่ง และใน 5 ปี จะมีรถ EV ให้เช่าทั้งหมด 20,000 คัน โดยมีบริการครบวงจร ตั้งแต่มีรถให้เช่า การบริหารจัดการระบบขนส่ง การดูแลรักษา การให้คำปรึกษาด้านเส้นทางและการใช้รถที่เหมาะสม

ธุรกิจสาธารณูปโภค ด้านน้ำ ในไทย จะมีการลงทุนด้านพัฒนา Smart Water Solutions เพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน ลดน้ำสูญเสีย ที่เวียดนาม จะทำการขยายธุรกิจน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสีย ปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายรวมน้ำที่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในส่วนของไฟฟ้า ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้ว 1,185 เมกะวัตต์ โดยจะมาจากพลังงานหมุนเวียน 657 เมกะวัตต์ จากปี 2567 มีกำลังผลิตรวม 965 เมกะวัตต์

“เราสนใจการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่เป็นพลังงานใหม่ที่กำลังพูดถึงกันอยู่ตอนนี้ คือ พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ซึ่งมีการคุยกับภาครัฐแล้ว กำลังศึกษากันอยู่ถึงประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับ ถ้าได้ภาพชัดเจนจะมีการปรับเปลี่ยนแผน เชื่อว่าน่าจะเกิดได้ภายใน 5 ปีนี้ ไม่ต้องรอถึง 10 ปีอย่างที่มีการพูดกันก่อนหน้านี้ โดย SMR รุ่นที่ 4 สามารถสร้างในนิคมอุตสาหกรรมได้ และสามารถจ่ายไฟให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าต้องการพลังงานสะอาดอยู่แล้ว ต้นทุนก็ต่ำ เชื่อว่ารัฐบาลจะเห็นความสำคัญ”น.ส.จรีพร กล่าว

ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ งบลงทุน 5 ปี อยูที่ 19,000 ล้านบาท ปี 2568 จะมีการลงทุนเพิ่มพื้นที่ใหม่อีก 200,000 แสนตารางเมตร เป็นเวียดนาม 37,000 ตารางเมตร และ ไทย 30,000 ตารางเมตร ที่เหลือจะเป็นคลังสินค้า Built-to-Suit จะทำให้มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 3.30 ล้านตารางเมตร และมีแผนจะขายสินธิการเช่าพื้นที่ให้กับกองทรัสต์ WHART ประมาณ 70,000 ตารางเมตร เป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท

ขณะที่ ธุรกิจดิจิทัล ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นและระบบดิจิทัลเอไอ แพลตฟอร์มการทำงาน เพื่อยกระดับองค์กรเข้าสู่การทำงานยุคดิจิทัล โดยปัจจุบันมีการลงทุนพัฒนาโครงการ AI Transformation 12 โครงการ และปี 2568 นี้จะมีการลงทุนพัฒนา 5 แอปพลิเคชั่นใหม่ โดยจะใช้งานภายในกลุ่ม WHA ส่วนแพลตฟอร์ม โมบิลิกส์ ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้ให้ทางธุรกิจโมบิลิตี้ ใช้ในการจัดการรถ EV ให้เช่า ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรถ EV ใช้งาน 900 คันในปีนี้ และเพิ่มเป็น 6,000 คันในปี 2572