TQR ปักหมุดปี 68 รายได้โต 5-10% ลุยประกันภัยต่อ Alternative-Traditional

HoonSmart.com>> “ที คิว อาร์” (TQR) เปิดแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% เดินหน้าพัฒนาประกันภัยต่อ Alternative และ Traditional รูปแบบใหม่ ส่วนบริษัทร่วมทุน อัลฟ่าเซคฯ และ อาร์สแควร์ฯ นำเทคโนโลยี AI พัฒนาแพลตฟอร์ม ดันผลงานเติบโตมั่นคง

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน โดยธุรกิจประกันภัยต่อ Traditional และ Alternative ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TQR มีการพัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงและรับมือกับความเสี่ยงอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

“ปี 2568 เราประเมินว่า ผู้บริโภคมีความต้องการในการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากความเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และการระบาดของโรคอุบัติใหม่ประกอบกับ บริษัทฯ วางแผนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ร่วมกับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากขึ้น”นายชนะพันธุ์ กล่าว

ทั้ง ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับ ESG โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV), ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health), ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers), ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence), ประกันภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งธุรกิจประกันภัยต่อจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย พร้อมทั้ง จะช่วยผลักดันผลงาน TQR ให้เติบโตมั่นคงและยั่งยืน

นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) กล่าวว่า สำหรับบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย “บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด” โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการให้เป็นระบบอัตโนมัติ (Automatically) และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังได้เริ่มขยายธุรกิจในด้านการให้คำปรึกษาและบริการ DPO Outsourcing ไปในกลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจการเงิน การธนาคาร และธุรกิจประกันภัย

ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัทร่วมทุน “บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด” ในปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการปรับปรุงคุณภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในด้าน Face Recognition ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายไปในอีกหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ